6 เคล็ดลับ วิธีใช้งานรถเครนให้ปลอดภัย ช่วยลดอุบัติเหตุได้เยอะ

6 เคล็ดลับ วิธีใช้งานรถเครนให้ปลอดภัย ช่วยลดอุบัติเหตุได้เยอะ

อุบัติเหตุย่อมเกิดทุกที่ทุกเวลาเสมอ หากทำอะไรแล้วไม่ระวังอุบัติเหตุก็อาจเกิดขึ้นได้เสมอ เช่นเดียวกับรถเครน มักจะเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง ด้วยหลากหลายสาเหตุ ปกติเป็นรถที่ใช้งานยากอยู่แล้ว หากทำงานอย่างไม่ระมัดระวัง อุบัติเหตุก็สามารถเกิดได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมอีกครับ และนั้นจะส่งผลอันตรายมากมาย ทั้งคนขับ รถเครนเสียหาย หรือคนรอบข้างเองก็ตาม จะได้รับผลกระทบด้วยครับ

การเกิดอุบัติเหตุจากรถเครน จะมีอยู่หลากหลายสาเหตุ ที่มีผลในการเกิด ซึ่งหากเกิดข้อผิดพลาดจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ เรามาดูกันครับว่า มีเคล็ดลับดีๆ อะไรบ้าง สำหรับ 6 เคล็ดลับ วิธีใช้งานรถเครนให้ปลอดภัย ที่จะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้

1.รถเครนอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน
การตรวจดูสภาพรถเครน จะเป็นสิ่งที่คนมักจะมองข้ามตลอดเลยครับ ด้วยเหตุผลมากมาย หัวหน้าไม่สั่งบ้าง หรือจะตรวจทำไหมใช้งานก่อนหน้านี้เห็นปกติดี ไม่มีอะไรผิดปกติ ด้วยเหตุผลต่างๆ นี้ ซึ่งทำให้ถูกมองข้ามสิ่งนี้ได้ตลอด เป็นกระทำที่ผิดเลยครับ เพราะในบางครั้ง อาการรถจะดี หรือไม่ดี ไม่ได้อยู่ การใช้งานก่อนหน้านี้ แต่จะเป็นสภาพแวดล้อม และการดูแลได้ดีแค่ไหน

ยิ่งเป็นรถเครน จะเป็นรถที่ต้องใช้งานหนักๆ เกือบทุกงาน ต้องมีส่วนที่เสื่อมสภาพอยู่บ้างเล็กน้อย หากไม่มีการดูแลบ่อยๆ หรือปล่อยอย่างนี้ไปนานๆ แน่นอนว่ารถเครนจะมีสภาพที่แย่ไปกว่าเดิม จะเป็นเหตุที่ทำให้การเกิดอุบัติเหตุขึ้น แม้จะเสียหายน้อย หรือมากก็ตาม เป็นสิ่งนี้ไม่ควรปล่อยให้เกิดขึ้น ดังนั้นเราควรตรวจเช็คสภาพรถเครนก่อนใช้ หากใช้งานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ควรเช็คบ้าง ว่าส่วนไหนผิดปกติ จะช่วยให้การทำงานราบรื่นขึ้น ทำงานง่ายขึ้น ไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องรถอยู่บ่อยๆ เลยครับ

2.ตรวจสอบส่วนประกอบเครนอย่างละเอียด
ส่วนประกอบแต่ส่วนของรถเครนจะมีความสำคัญ หากส่วนใดส่วนหนึ่งมีปัญหา หรือสภาพไม่ดี อาจเกิดอันตรายได้เลยครับ การตรวจเช็คส่วนประกอบส่วนต่างๆ ก่อนเริ่มงานนั้น เป็นการบ่งบอกได้ว่า เป็นการทำงานที่มีคุณภาพ รอบคอบ และกลัวปัญหาที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นผลดี ทั้งด้านงาน และด้านองค์กรเองก็ตาม

แต่ละส่วนประกอบรถเครนมีผลอย่างมากในการทำงาน โดยส่วนใหญ่รถเครนจะถูกใช้งาน ยกของหนักๆ ยกในแต่ล่ะครั้ง หลายๆ ตัน หากไม่มีการตรวจเช็ค จะส่งผลอันตรายงานการทำงานได้ งั้นเรามาดูกันว่ามีส่วนประกอบอะไรบ้าง ที่ควรเช็ค

- สายสลิง จะเป็นส่วนแบกรับน้ำหนักอยู่ตลอดเวลา เลย ยกของแต่ละครั้งไม่ใช้น้อยเลย เป็นไปได้ สายสลิงไม่ควรชีกขาด เพราะเป็นส่วนที่จะเกิดอันตรายได้ง่าย
- แกนม้วนสายสลิง เป็นส่วนที่ต้องเช็คอยู่เช่นกัน หากแกนม้วนมีปัญหา จะเป็นส่วนทำให้สายสลิงเสียหายได้ ต้องเช็คดูว่าทำงานได้ปกติดีรึเปล่า
- ตะขอ ต้องเช็คดูว่าตะขอ ส่วนที่ เปิด – ปิด ใช้งานดีเหมือนเดิมรึป่าว หากปิดไม่สนิท ก็อาจทำให้ ของที่ยกขึ้นมา หลุดออกไปได้ครับ
- มอเตอร์ของรถเครน จะเป็นส่วนที่มีความสำคัญในการทำงานเลยก็ว่าได้ครับ มอเตอร์ต้องมีสภาพปกติ หากรู้สึกมอเตอร์ผิดแปลกไป ก็ไม่ควรใช้งาน จะเกิดอันตรายระหว่างทำงานได้ครับ
- สภาพสวิตซ์ไฟ จะเป็นส่วนที่ค่อยควบคุมการทำงาน ทุกส่วน ต้องอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ทุกส่วน
- แขนบูม เป็นส่วนที่รับน้ำหนักการยกวัตถุต่างๆ การจะยกน้ำหนักแต่ละครั้งต้องคำนวนเรื่องขีดจำกัดของเครนด้วย ไม่ควรยกเกินน้ำหนัก หรือใกล้เคียงน้ำหนักที่ยกได้
- ขายันพื้น มีไว้เพื่อสร้างความเสถียรภาพของรถเครน ขณะที่กำลังยกน้ำหนัก

3.สภาพพื้นที่ทำงาน
ในทุกพื้นที่ย่อมมีอุปสรรค ที่เราต้องเผชิญเสมอ แม้จะเจอสภาพพื้นที่แบบไหน เราก็ไม่สามารถเลือกได้ เพราะเป็นงานของเราใช่ไหมครับ การทำงานในพื้นที่ต่างๆ ย่อมมีอันตรายเกิดขึ้นได้เสมอ หากมีการจัดการในการทำงานที่ดี จะช่วยลดการเกิดอัตรายได้ไม่น้อยเลย และการทำงานด้วยความใจเย็นจะมีผลได้มากอยู่เช่นกันครับ

หากคุณผ่านการทำงานที่มีสภาพพื้นที่ ที่แสนยากลำบากมาได้ จะเป็นบทเรียน และประสบการณ์ที่ดีในการทำงานได้ครับ พื้นที่ต่างๆ ที่ยากลำบาก อย่างเช่น ทางวิ่งมีผิวจราจรเป็นหลุมเป็นบ่อ ปฏิบัติงานใกล้ที่ลาดชัน สภาพพื้นที่ไม่มั่นคงแข็งแรง เป็นต้น

การเลือกใช้ประเภทรถเครน ก็มีส่วนช่วยได้มากอยู่เช่นกันครับ เช่น หากพื้นที่แถวนั้นมีเนิน หรือที่ลาดชัน ก็อาจเลือกรถเครนตีนตะขาบจะช่วยงานได้ดี เป็นต้น ทุกสภาพพื้นที่ยากลำบากก็สามารถผ่านไปได้ หากมีการว่างงาน มีการจัดการที่ดี สิ่งเหล่านี้จะช่วยทำงานได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญทำงานไม่ประมาท และมีความรอบคอบช่วยให้ผ่านสภาพพื้นที่ค่อนข้างลำบากได้ ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุ ได้ครับ

4.ลดความเสี่ยงของคนขับรถเครน
อย่างที่หลายคนรู้กันที่ว่าการขับรถเครนเป็นสิ่งยากลำบากมาก ซึ่งมีความยากในการขับรถทั่วไปหลายเท่าเลยครับ จะบอกได้ว่าหากคนทั่วไปที่ไม่มีความชาญมากพอ ก็ไม่ควรจะขับอีกครับ ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย หากมีการฝึกฝนมากอย่างดี แล้วเพิ่งเริ่มทำงาน อาจลองทำงานงานง่ายๆ ก่อนน่ะครับ

การเตรียมพร้อม ก่อนจะเริ่มทำงานก็เป็นส่วนที่ทำให้งานออกมาได้ดี และทำงานได้สะดวกรวดเร็วขึ้น ทั้งด้านสภาพร่างกาย และส่วนของงานที่จะทำ จะเป็นส่วนช่วยลดการเกิดอันตรายได้บ้างครับ สิ่งที่คนขับรถเครนที่ต้องเตรียมพร้อมในการทำงาน ต้องทำอย่างไรบ้าง มีดังนี้ครับ

- การเตรียมความพร้อมด้านร่างกายในการทำงาน
สภาพร่างกายที่คุณต้องให้ความสำคัญไว้บ้าง ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ต้องมีการพักผ่อนที่เพียงพอ สภาพร่างกายที่แข็งแรง เพื่อไม่เกิดอาการง่วง และอ่อนเพลียในการขับ หากรู้สึกว่าตัวเองเมาอยู่ ต้องหยุดพักก่อน การขับรถเครน ต้องมีสติในการขับ เดิมทีเป็นรถที่ขับยาก และต้องใช้สติในการขับอยู่มาก เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอันตราย
 
- การสร้างความปลอดภัยด้วยตนเองไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ
ในการขับรถเครน ต้องมีการเรียนรู้หรือการฝึกอบรมมาก่อน ในการควบคุมเพื่อให้เกิดอุบัติเหตุน้อยลงที่สุด และสร้างความเชี่ยวชาญการขับรถเครนหรือมีใบอนุญาติในการขับ เพราะรถเครนที่ขับเคลื่อนส่วนใหญ่ใช้งานในไซส์งานก่อสร้างขนาดใหญ่ สร้างตึก หรือขนย้ายสิ่งของที่น้ำหนักจำนวนมาก ดังนั้นควรมีความรู้พื้นฐาน หรือข้อห้ามของการขับรถเครน

5.รู้ขีดจำกัดของรถเครน
บ่อยครั้งที่เกิดอุบัติเหตุ โดยยกวัตถุที่มีน้ำหนักมากเกินไป ทำให้รถเครนพลิกคว่ำอยู่บ่อยๆ ตามในข่าวที่ได้ยินมา อาจจะเกิดด้วยสาเหตุอื่นบ้าง สำหรับที่เกิดอุบัติเหตุด้วยสาเหตุนี้ อาจจะมีการเข้าใจผิดบ้างเรื่องขีดกำจัดของรถเครนบ้าง หรือรู้ว่ารถเครนถึงขีดจำกัดแค่ไหน แต่ยังพยายามที่จะยกให้ได้เพื่อให้งานเสร็จเร็วๆ สุดท้ายเกิดอุบัติเหตุรถเครนพลิกค่ำจนได้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ จะมากหรือน้อยก็ตาม ซึ่งมันไม่น่าจะเกิดขึ้น หากทำงานอย่างรัดกุม

อยากให้ทำความเข้าใจกันใหม่ว่า ยกตัวอย่างเช่น รถเครน 25 ตัน ไม่ได้แปลว่ายกวัตถุสิ่งของได้ถึง 25 ตัน และไม่ได้แปลว่ารถเครนหนักถึง 25 ตัน หากถามว่า “ รถเครนประเภทนี้สามารถได้น้ำหนักเท่าไร “ สามารถยกได้ถึง 25 ตัน ครับ หลายคงสงสัยใช่ไหมว่า ทำไหมตอนแรกที่ผมบอกว่า “ รถเครน 25 ตัน ไม่ใช้ยกน้ำหนักได้ถึง 25 ตัน ” เพราะผมไม่อยากให้คุณเข้าใจว่า รถเครน 25 ตัน ยกได้ถึง 25 ตัน

อยากให้คุณเข้าใจตรงนี้ว่า หากทำการยกของบริเวณใกล้ๆ สามารถยกน้ำหนัก 25 ตันได้เลยครับ โดยปกติรถเครนจะไม่ยกของในที่บริเวณใกล้ๆ อย่างเดียว แต่จะยกเพื่อไปว่างในที่ไกลๆ ด้วย หากกรณีนี้ จะยกด้วย 25 ตันก็คงไม่ไว้ อธิบายให้เข้าได้ง่ายๆ ว่า “ ลองนึกภาพเวลาที่คุณถือของอยู่ เวลาที่คุณนำของที่คุณถือไว้แนบตรงลำตัว น้ำหนักจะเบาขึ้นนใช้ไหมครับ และเวลาที่คุณนำของออกห่างจากลำตัว ของที่ถือไว้จะหนักขึ้นครับใช่ไหมครับ “ รถเครนก็เช่นกันครับ ถ้ารถเครนยืดออก น้ำหนักก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้รถเครนพลิกคว่ำค่อนข้างสูงครับ


ติดต่อสอบถาม