สวัสดี

ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: แฟรนไชส์ เตาถ่านหมูกระทะ ธุรกิจไซส์มินิเน้นความคล่องตัวทำตลาดได้ทุกทำเล  (อ่าน 2686 ครั้ง)

Admin
  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1088
    • ดูรายละเอียด
แฟรนไชส์ เตาถ่านหมูกระทะ ธุรกิจไซส์มินิเน้นความคล่องตัวทำตลาดได้ทุกทำเล

‘เตาถ่านหมูกระทะ’ หนึ่งในตัวเลือกธุรกิจน่าลงทุนสำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัด มาพร้อมความโดดเด่นด้วยการออกแบบที่ทันสมัย สร้างความสำเร็จด้วยรสชาติที่อร่อยไม่เหมือนใคร จากสูตรน้ำจิ้มรสเด็ดเฉพาะตัว สร้างรายได้ที่มั่นคงด้วยรูปแบบการขายแบบใหม่การันตีกำไรไม่ต่ำกว่า 50 เปอร์เซ็นต์จากยอดขาย สร้างความสำเร็จอย่างแท้จริง

แฟรนไชส์ เตาถ่านหมูกระทะ มีจุดเริ่มต้นมาจาก คุณอารายา ทามแก้ว(แอน) นักธุรกิจสาวสวยมากความสามารถที่มองเห็นโอกาสความสำเร็จจากธุรกิจหมูกระทะซึ่งเธอได้บังเอิญรับช่วงกิจการต่อมาจากเพื่อนรุ่นพี่ของเธอและได้มีการพัฒนาปรับปรุงรูปแบบร้านใหม่จนกลายเป็นร้านที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงและสามารถต่อยอดเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ได้ในที่สุด เธอเล่าถึงแรงบันดาลใจและจุดเริ่มต้นว่า

“ตัวแอนจบเทคนิคการแพทย์จากมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ แต่มีใจรักทางดนตรี หลังเรียนจบทำธุรกิจแรก คือเปิดโรงเรียนดนตรีสอนให้กับเด็กๆ ที่หันมาทำธุรกิจหมูกระทะ เนื่องจากเป็นคนชอบทานหมูกระทะอยู่แล้ว เคยลองคำนวนเล่นๆ ว่ารายได้ของธุรกิจหมูกระทะเป็นอย่างไร ซึ่งถือว่าเป็นธุรกิจที่มีอัตราเติบโตเร็วเนื่องจากเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมแทบทุกพื้นที่ จะชอบบรรยากาศของร้านหมูกระทะ และด้วยความบังเอิญมีพี่สาวที่สนิทกัน มีร้านหมูกระทะอยู่ ที่หลังม.เทคโนโลยีสุรนารี แล้วทำไม่ไหวเนื่องจากน้องชายจะไปทำงานประจำ เลยเสนอขายกิจการให้จึงตัดสินใจรับซื้อกิจการต่อ  ซึ่งผลตอบรับถือว่าดีมากๆ ด้วยทำเลที่เปิดเป็นย่านนักศึกษา ซึ่งชอบทานบุฟเฟ่อยู่แล้ว ทำให้มียอดขายไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อวัน”

จุดเด่นของเตาถ่านหมุกระทะ สิ่งแรกคือคุณภาพ ตั้งแต่ น้ำจิ้ม วัตถุดิบที่ใช้ไม่ว่าจะเป็นหมู ไก่ ซึ่งค่อนข้างพิถีพิถันในการคัดสรรวัตถุดิบ อย่างน้ำจิ้มเป็นสูตรเฉพาะที่มีส่วนผสมและขั้นตอนการทำที่ละเอียดกว่าแบบทั่วไป เพื่อให้ได้รสชาติที่หอมอร่อย เมื่อทานคู่กับเนื้อหมูที่หมักด้วยผงหมักสูตรเฉพาะของทางร้านเป็นเวลากว่า 3 วัน และน้ำซุ้ปที่เข้ากันอย่างลงตัวกับวัตถุดิบทุกชนิด รสชาติที่ได้คือความกลมกล่อมไม่เหมือนใคร รับรู้ได้ถึงคุณภาพของวัตถุดิบ ที่สำคัญราคาไม่แพง เริ่มต้นที่ชุดละ 79 บาท 2 คน ชุด 119 บาท (3 คน)

หลังจากนั้น 1 ปี คุณแอนตัดสินใจขยายสาขาด้วยรูปแบบแฟรนไชส์ ด้วยไอเดียที่ต้องการทำตลาดหมูกระทะให้ครอบคลุมตลาดมากขึ้น สไตล์สตรีทฟู้ด เปิดโอกาสให้คนที่ไม่มีพื้นที่เป็นของตัวเองสามารถตั้งคีออสก์ได้ โดยมีรูปแบบร้านที่ทันสมัยใช้พื้นที่น้อย พับเก็บได้สะดวกโดยแบ่งการลงทุนเป็น 2 รูปแบบดังนี้

รูปแบบที่ 1 ชุดเตาถ่าน งบลงทุน 150,000 บาท
รูปแบบที่ 2 ชุดเตาไฟฟ้า งบลงทุน 250,000 บาท
ได้รับอุปกรณ์พร้อมเปิดร้านทันที อาทิ คีออสก์สไตล์ BOX ขนาด 2×2 เมตร พร้อมการตกแต่งที่โดดเด่น และวางระบบไฟฟ้าในตัว พร้อมเสียบใช้งานกับตัวบ้าน และชุด โต๊ะ+เก้าอี้ และ เตาถ่าน(ไฟฟ้า) หม้อน้ำซุป จำนวน 6 ชุด  ชุดถ้วยจาน จำนวน 10 โหล

“จุดเด่นของแฟรนไชส์นอกจากความสะดวกในเรื่องของพื้นที่ที่ไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่กว้างก็สามารถเปิดร้านได้แล้ว รูปแบบการขายยังจัดเป็นชุดๆ มีราคาเริ่มต้นที่ชุดละ 79 บาท กำไรต่อชุดอยู่ที่ 40 เปอร์เซ็นต์จากยอดขาย หากต่อวันขายได้ 20 ชุดจะมีกำไรวันละ 800 บาท สามารถควบคุมต้นทุนได้ดีกว่าบุฟเฟ่ ส่งผลต่อความสะดวกในการบริหารจัดการวัตถุดิบ ทำเลที่แนะนำควรเป็นแหล่งชุมชน โซนนักศึกษา ย่านออฟฟิศ หรือสถานที่ราชการ”

เตาถ่านหมูกระทะนับเป็นธุรกิจที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ซึ่งร้านหมูกระทะถือเป็นร้านที่ได้รับความนิยมอย่างสูงแม้ว่าจะมีร้านที่เปิดขึ้นมาอย่างมากมายแต่ก็ยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ และด้วยขนาดธุรกิจที่มีความคล่องตัว ทำให้สามารถขยายกลุ่มผู้บริโภคได้มากกว่าการต้องมาเฉพาะร้านใหญ่เพียงอย่างเดียว ที่สำคัญคือเรื่องรสชาติ ที่หากใครได้ลองทานต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันถึงความอร่อยและไม่เหมือนใคร ซึ่งตัวคุณแอนให้ความใส่ใจกับวัตถุดิบมากที่สุด โดยเฉพาะน้ำจิ้ม ที่แฟรนไชส์ซีต้องซื้อจากครัวกลางเท่านั้นเพื่อความอร่อยที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน

“เราให้ความใส่ใจในเรื่องของคุณภาพมากที่สุด โดยเฉพาะน้ำจิ้มถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จมาได้จนถึงทุกวันนี้ ส่วนของธุรกิจปัจจุบันสไตล์การทานเน้นความสะดวกสบาย ดังนั้นแฟรนไชส์ที่เราออกแบบจะสามารถตอบโจทย์ความสะดวกได้ ที่สำคัญเป้าหมายทางการตลาดที่เราวางไว้ยังไม่มีคู่แข่ง ขอเพียงแค่ผู้ลงทุนต้องมีใจรักบริการ มีใจอยากลงทุน และเป็นนักลงทุนจริงๆ และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจเรา โอกาสประสบความสำเร็จมีอย่างแน่นอน”

7 แนวทางทำร้านหมูกระทะให้คนฮิตติดใจ!
1. ทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่า
ลูกค้าส่วนใหญ่อาจไม่ได้สนใจว่าราคาของเราจะถูกหรือแพงแต่เขาสนใจแค่ว่าคุ้มหรือไม่คุ้มมากกว่า ฉะนั้นไม่ว่าเราจะตั้งราคาต่อคนต่อหัวเท่าไหร่ จะ 99 บาท 299 บาท หรือ 399 บาท จงมั่นใจว่าทุกเมนูที่เสิร์ฟให้ลูกค้า จะทำให้เขารู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป
2. บริหารจัดการต้นทุนให้ดี
เราต้องรู้ก่อนว่าในแต่ละเมนูมีต้นทุนเท่าไหร่ มีส่วนประกอบอะไรบ้าง อย่างละกี่กรัม เมนูไหนออกมากหรือออกน้อย การรู้ความต้องการของลูกค้าที่สัมพันธ์กับเมนูสามารถลด food costs ได้
3. บริหารของเสียให้เหลือน้อยที่สุด
หนึ่งในรูปแบบที่น่าสนใจคือลดขนาดของอาหารให้น้อยลง ก็อาจลดโอกาสที่ลูกค้าจะกินเหลือให้น้อยลงได้ เนื่องจากพฤติกรรมของคนกินมักชอบลองอะไรหลายๆ อย่าง การที่แต่ละเมนูมีขนาดไม่ใหญ่นัก จะทำให้ลูกค้ามีโอกาสลองเมนูอื่นๆ มากขึ้น
4. คิดให้ดีก่อนทำโปรโมชั่น
โดยเฉพาะพวกโปรลดราคา หรือมา 3 จ่าย 2 อะไรพวกนี้แม้จะดึงดูดลูกค้าได้แต่โอกาสเสี่ยงเจ๊งก็มีสูง วิธิที่ดีที่สุดคือเราต้องรู้ตัวเองว่าขายอะไรและขายใคร โปรโมชั่นอาจทำให้ได้ลูกค้าใหม่แต่ก็อาจเสียฐานลูกค้าเก่าได้เช่นกัน ดังนั้นโปรโมชั่นจึงต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนและไม่ควรมีบ่อยมากจนเกินไป
5. ใส่ใจความสะอาดของร้านและอาหารให้ดี
ร้านหมูกระทะส่วนใหญ่เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ คือ ร้านอาหารแนวบริการตัวเอง จุดอ่อนสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือเรื่องของความสะอาดไม่ว่าจะเป็นตัวสถานที่ หรืออาหารทั้งอาหารสดและปรุงสำเร็จมันมีกรณีเกิดขึ้นมากมายเกี่ยวกับการไม่สนใจเรื่องความสะอาดและท้ายที่สุดก็จบไม่สวยแน่ๆ
6. เตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาจากลูกค้า
สิ่งที่ต้องเจอแน่ๆ คือปัญหาจากลูกค้า เพราะแต่ละคนที่มาใช้บริการมีความคิดและนิสัยที่แตกต่าง ลูกค้าบางคนก็มีกลโกงร้านค้า เช่น มากิน 3 คน แต่ตอนจ่ายบอกว่ามา 2 คน หรือบางคนกินเหลือกินทิ้ง และก็ไม่ยอมจ่ายค่าปรับให้กับร้านตามกติตาที่กำหนด และอีกหลากหลายรูปแบบปัญหาที่คนเปิดร้านหมกระทะต้องเจอ แต่ไม่ว่าจะเจอเหตุการณ์แบบไหนอย่างไรในฐานะงานบริการเราต้องแก้ปัญหาอย่างใจเย็น ซึ่งการอารมณ์ร้อนไปกับลูกค้าบางคนอาจทำให้ร้านของเราเสียชื่อเสียงได้ยิ่งในยุคโซเชี่ยลแบบนี้ต้องระวังให้มาก
7. ปรับปรุงและพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
การที่ร้านหมูกระทะเป็นการลงทุนยอดฮิตเราย่อมหนีไม่พ้นคู่แข่ง สิ่งสำคัญคือเราต้องพัฒนาร้านค้า พัฒนาการบริการ พัฒนาสินค้า เช่น มีเมนูใหม่ๆ บริการใหม่ๆ โปรโมชั่นใหม่ๆ และมีการตลาดยุคใหม่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเปิดร้านให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย


สอบถาม ปรึกษา คลิกเลย /size]