สวัสดี

ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: 7 อย่างที่ต้องรู้ก่อนรีไฟแนนซ์  (อ่าน 3098 ครั้ง)

Admin
  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1088
    • ดูรายละเอียด
7 อย่างที่ต้องรู้ก่อนรีไฟแนนซ์
« เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2022, 10:24:31 AM »
7 อย่างที่ต้องรู้ก่อนรีไฟแนนซ์
1 รีไฟแนนซ์รถยนต์คืออะไร?
รีไฟแนนซ์รถยนต์ คือการขอรับบริการสินเชื่อโดยใช้บางท่านเข้าใจว่ามันคือการ [urlhttps://line.me/R/ti/p/%40vhq5795u]“ย้ายไฟแนนซ์”[/url] สมมติว่าคุณกู้ซื้อรถยนต์ในราคา 700,000 บาท โดยใช้บริการผ่อนกับธนาคารแรกผ่านไปแล้ว 500,000 บาท และต้องการปิดวงเงินอีก 200,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยที่เหลือ เพื่อให้การจ่ายค่างวดต่อเดือนลดลง ในส่วนนี้มักทำได้ด้วยการขอสินเชื่อวงเงินใหม่ โดยการขอรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดนี้ ไม่ต้องจอดรถยนต์ไว้ที่แบงก์ มีทั้งรูปแบบที่ต้องต้องโอนหรือไม่ต้องโอนทะเบียนเล่ม ขึ้นอยู่กับสัญญาที่ทำกับบริษัทสินเชื่อนั้น ๆ

2 รีไฟแนนซ์รถควรทำเมื่อไหร่?
ส่วนใหญ่แล้วรถยนต์ที่จะนำมาเข้ารีไฟแนนซ์ ต้องผ่านระยะเวลาการผ่อนชำระมาแล้วครึ่งหนึ่ง เพื่อให้ดอกเบี้ยของรถยนต์คันนี้ ค่อย ๆ ลดลงก่อน ดอกเบี้ยนี้มาจากที่เราผ่อนรถยนต์มาแล้วเป็นเวลายาว ๆ เมื่อเหลืออีกก้อนสั้น ๆ ก็จะจ่ายทั้งดอกเบี้ยละเงินต้นลดลงในสถาบันการเงินที่ใหม่ได้

3 รถแบบไหนรีไฟแนนซ์ได้บ้าง
ไม่ใช่ว่ารถยนต์ทุกคันที่จะเข้ารับบริการรีไฟแนนซ์ได้ ทางสถาบันการเงินก็มีข้อระบุเกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์รถยนต์  ว่าต้องเป็นรถยนต์ที่ใช้ในครัวเรือน และไม่เก่ามากเกินไป (ไม่ควรเกิน 15-20 ปี ) ส่วนรถหรูประกอบส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยรับ เพราะสถาบันการเงินทุกแห่งอาจเขียนในสัญญาเพิ่มเติมได้ว่าไม่รับรถหรู หรือรถประกอบ เพราะขาดผู้ที่จะประเมินตีราคากลาง ป้องกันการย้อมแมวเอารถมาเข้าจำนำทะเบียนแล้วก็หายไปไม่ส่งยอดค่างวด สรุปคร่าว ๆ สำหรับรถที่ใช้รีไฟแนนซ์ได้แก่

รถยนต์นั่งส่วนบุคคล (รถเก๋ง ซึ่งรวมรถ SUV, CRV ทั้งหมด)
รถยนต์ประเภทรถกระบะ (รถปิคอัพ)
รถตู้
รถบรรทุกบางรายการ

4 เช็คราคากลางรถยนต์ได้ที่ไหน
และตามบริษัทรับรีไฟแนนซ์ต่าง ๆ จะมีข้อกำหนดว่าวงเงินที่ได้นั้นจะได้ประมาณ 80 – 90% เท่านั้น แม้ว่าบางแห่งจะให้เต็ม 100% ของราคาประเมิน ซึ่งราคาประเมินนี้สามารถเข้าไปดูได้ตามเว็บไซต์จำหน่ายรถมือสองต่าง ๆ โดยเลือกไปที่ปีออกรถ และ รุ่นรถที่ใกล้เคียงกับรถของคุณ เช่น เว็บไซต์ขายดีขายรถ

5 รีไฟแนนซ์รถยนต์ในประเทศไทยที่ไหนได้บ้าง?
หากคุณผ่อนรถอยู่กับธนาคารเดิม แล้วต้องการขอสินเชื่อตัวใหม่เพื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์ บางธนาคารทำได้ (ลองติดต่อกับแบงก์เดิมดูก่อน ซึ่งอาจจะขยายเวลาจากการผ่อน 48 เดือน เป็น 84 เดือน แต่หากเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยแล้วไม่คุ้ม ก็เปลี่ยนแบงก์ก็ได้) รีไฟแนนซ์รถยนต์กับธนาคารเดิมได้ไหม? สรุปว่า ทำได้กับบางเจ้า แต่ปัจจุบันนี้ก็มีหลายธนาคารที่เปิดรับรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด ได้แก่

กสิกรไทย
กรุงศรี
เงินติดล้อ
ธนชาต
เกียรตินาคิน
ทิสโก้

6 เอกสารรีไฟแนนซ์รถยนต์มีอะไรบ้าง?
โดยปกติแล้วหากเป็นพนักงานออฟฟิศ ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจจะเตรียมเอกสารไม่ยาก ใช้แค่สลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองเงินเดือนก็ผ่านง่าย ส่วนใครที่ทำอาชีพอิสระ สามารถใช้หนังสือรับรองการเสียภาษีส่วนบุคคล อย่างใบทวิ 50 หรือพวกสัญญาจ้างต่าง ๆ ได้

1) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถ

2) สำเนาทะเบียนบ้านของเจ้าของรถ

3) สำเนาทะเบียนเล่มรถยนต์

4) สลิปเงินเดือนเดือนล่าสุด (หากไม่มีให้ใช้หนังสือรับรองเงินเดือน พร้อมกับสำเนาเดินบัญชีรับเงินเดือน 3 – 6 เดือน)

7 ข้อยกเว้น เมื่อต้องการ “รีไฟแนนซ์รถยนต์” มีอะไรบ้าง?

ในรายละเอียดตั้งแต่ข้อ 1 – 6 นี้หากคุณคิดว่าตัวเองเข้าเงื่อนไขมีสิทธิ์ผ่านอนุมัติแล้ว มาดูข้อยกเว้นอีกเล็กน้อย ที่ผู้ขอยื่นรีไฟแนนซ์จะต้องรู้ เนื่องจากการรีไฟแนนซ์รถยนต์เป็นสินเชื่อรถยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อลดอัตราดอกเบี้ยกู้รถยนต์ และลดค่างวดที่ต้องจ่าย แต่ก็มีข้อจำกัดเรื่องอายุรถยนต์ และอายุของเจ้าของรถอยู่เช่นกัน ดังนี้

7.1) ตัวเจ้าของรถ กับคนกู้รีไฟแนนซ์ต้องเป็นชื่อเดียวกัน

7.2) รถยนต์ไม่ต้องจอด

7.3) ยื่นขออนุมัติได้จากหลายที่ หากปฏิเสธวงเงิน ก็ควรไม่เสียค่าธรรมเนียม

7.4) อายุผู้กู้บวกกับอายุสัญญาสินเชื่อ ต้องไม่เกินตามที่ไฟแนนซ์ระบุ

7.5) บางแห่งระบุว่าทะเบียนเล่มต้องอยู่ในพื้นที่ให้บริการเท่านั้น

 

อย่าอายที่จะปรึกษาเรา ทักมา