สวัสดี

ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ลักษณะของงานช่างมีอะไรบ้าง  (อ่าน 4275 ครั้ง)

Admin
  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1088
    • ดูรายละเอียด
ลักษณะของงานช่างมีอะไรบ้าง
« เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2022, 11:02:34 AM »
ลักษณะของงานช่างมีอะไรบ้างครับ

"ลักษณะของงานช่าง จำแนกตามลักษณะงาน ได้ ดังนี้
1.   งานเขียนแบบ   เป็นการถ่ายทอดจินตนาการ   ความคิดสร้างสรรค์    ของวิศวกรหรือนักออกแบบให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างบนกระดาษ   รูปร่างที่เกิดขึ้นจากการลากเส้นหลาย ๆ อย่าง  เช่น  เส้นดิ่ง เส้นโค้ง เส้นเอียง เส้นนอน มาประกอบกันเกิดเป็นรูปร่างเรียกว่า แบบ หรือ แบบงาน สามารถนำไปสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สิ่งของอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องจักรต่างๆ  เป็นต้น
2. งานไฟฟ้า ชีวิตประจำวันของมนุษย์ จะเกี่ยวข้องกับของใช้ที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะ เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ความสะดวก ความสุขสบาย  อย่างไรก็ตาม  หากใช้ไม่เป็น  ใช้ไม่ถูกต้อง  ก็ย่อมมีโทษเช่นกัน  การใช้จึงต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย ความประหยัดและอายุการใช้งาน งานไฟฟ้าเป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ ทักษะและประสบการณ์ ของการนำเอาพลังงานไฟฟ้ามาใช้ ในลักษณะของการเปลี่ยนเป็นรูปอื่นๆ เช่น แสงสว่าง  ความร้อน พลังงานกล    งานไฟฟ้าในงานช่างพื้นฐาน สามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เพราะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ซึ่งจะต้องรู้จักเครื่องมือเครื่องใช้ วิธีใช้ การเก็บบำรุงรักษา ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ สามารถจัดหาและนำมาใช้ได้อย่างประหยัดและปลอดภัย
3.   งานช่างยนต์    เป็นงานที่ต้องอาศัยความรู้ ความสามารถในการซ่อมแซมและบำรุงรักษายายนต์ ดังนั้นจึงต้องมีการเรียนรู้ในเรื่องของเครื่องยนต์เป็นหลัก ในปัจจุบันยานยนต์ที่นิยมใช้ ได้แก่ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการใช้งานและการดูแลรักษามาก การยืดอายุการใช้งาน การดูแลตรวจเช็คจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและอุบัติเหตุจากการใช้งานของเครื่องยนต์ได้
4.   งานโลหะ   งานโลหะเป็นงานที่ต้องอาศัยทักษะ แรงกาย ความอดทน ความประณีตและบางครั้งต้องใช้ เทคนิค วิธีการและประสบการณ์ในการทำงานค่อนข้างสูง ผลงานจึงจะมีคุณภาพและมีความปลอดภัยในการทำงานส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านหลายชนิด ทำด้วยโลหะ หรือโลหะเป็นส่วนประกอบ  เช่น รางน้ำ ลูกกรง ประตู หม้อ กระทะ ถังน้ำ เครื่องเรือน  เป็นต้น เครื่องใช้แต่ละอย่างใช้โลหะต่าง ๆ กัน เช่น ทองแดง ทองเหลือง เหล็ก อะลูมิเนียม มีรูปแบบต่าง ๆ กันตามลักษณะของการใช้งาน เครื่องใช้โลหะทุกอย่าง เมื่อใช้นานวันย่อมมีการชำรุดเสียหายต้องบำรุงรักษา เพื่อให้ใช้งานต่อไปได้อีก งานช่างโลหะบางชนิด เช่น งานช่างโลหะแผ่นสามารถนำมาสร้างสรรค์เป็นเครื่องใช้เครื่องตกแต่งภายในบ้านได้
5.   งานประปา ระบบประปาและระบบการระบายน้ำโสโครกในอาการบ้านเรือน เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับชีวิตประจำวัน ระบบประปาและระบบการระบายน้ำโสโครกที่มีประสิทธิภาพมีผลต่อสุขภาพและอนามัยของผู้อาศัยงานประปาจึงมีความสำคัญและเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการวัด การตัดต่อท่อ ข้อท่อ มีความสามารถในการซ่อมแซม แก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในระบบประปาและระบบการระบายน้ำต่างๆ
6.   งานไม้ งานไม้เป็นงานช่างที่ใช้ฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ ช่างไม้ต้องมีความอดทน ขยัน มีความรับผิดชอบสูง สามารถนำทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นไม้มาประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมทั้งนี้จะต้องมีทักษะในการใช้เครื่องมือและวัสดุ จึงจะสามารถปฏิบัติได้ทั้งชายและหญิง เช่น การซ่อมบำรุงรักษาเฟอร์นิเจอร์หรือส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน เป็นต้น
7.   งานปูน     เป็นงานหลักในงานก่อสร้าง อาคารสมัยก่อน   งานก่อสร้างจะใช้ไม้เป็นหลัก ปัจจุบันไม้มีจำนวนน้อย ราคาสูง  นอกจากนี้ยังช่วยในการต่อเติมซ่อมแซมสิ่งก่อสร้าง เหมาะสำหรับงานที่ไม่ใหญ่นัก เช่นการก่ออิฐทำขอบไม้ การเทปูนทางเดิน
8. งานสี   สีเป็นงานขั้นสุดท้ายของงานช่างหลายแขนง เช่น งานไม้ งานปูน และงานโลหะ เป็นต้น เพื่อตกแต่งงานที่สำเร็จแล้วให้ดูเรียบร้อยสวยงาม และยังช่วยให้งานแต่ละชิ้นมีความคงทนถาวรยิ่งขึ้น ยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน งานสีมีหลักวิธีการ ของเครื่องมือเครื่องใช้ และวัสดุที่ต้องศึกษาจึงจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นงานที่ทำได้ทั้งชายและหญิงนะคะ"

ช่างก่อสร้าง ประเภทงานก่อสร้าง มีอะไรบ้างและมีหน้าที่ทำงานก่อสร้างอะไรบ้าง
ช่างรับเหมาก่อสร้าง
- ช่างรับเหมา ก่อสร้าง เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในโครงการ เป็นคนควบคุมช่างก่อสร้างตำแหน่งอื่นๆทั้งหมด เจ้าของโครงการควรเลือกช่างรับเหมาที่ประสบการณ์ทำงานแล้ว มีผลงานที่ดี มีวุฒิภาวะ เพราะต้องใช้ความรับผิดชอบสูงเช่นกัน
- ทำงานให้เป็นไปตามเอกสารสัญญา โดยประกอบแบบรูป รายการข้อกำหนด ขอบเขตของงานและเงื่อนไขสัญญาอื่นๆ ขั้นตอนของการก่อสร้างนั้นเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะจะมีผลต่องบประมาณ และระยะเวลาการก่อสร้าง
- ผู้รับเหมาก่อสร้างจะต้องประมาณราคาค่าโครงการให้ออกมาใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด โดยการจัดทำกำหนดเวลาทำงานให้ออกมาในแนวทางที่เป็นไปได้ การจัดระบบควบคุมที่มีประสิทธิภาพ สำหรับใช้ควบคุมต้นทุน กำหนดระยะเวลาและคุณภาพของงาน
- ดังนั้น เจ้าของโครงการ ก่อนเลือกรับผู้รับเหมาควรขอดูผลงานของผู้รับเมาแต่ละเจ้าก่อน เปรียบเทียบทั้งเนื้องานและราคา ให้สมเหตุสมผลมากที่สุดก่อนทำสัญญาว่าจ้าง

วิศวกร
- วิศวกรรม มักโดยเรียกว่า ” นายช่างใหญ่ ” เป็นมีหน้าที่สำคัญที่ต้องใช้ลายเซ็นในการเซ็นกำกับแบบ ตรวจรับงานแบบต่างๆ ถือว่าเป็นต้นน้ำก่อนเริ่มก่อสร้างจริงๆ เพราะที่เขียนแบบขึ้นมาก่อน
- หน้าที่ของวิศวกร ออกแบบ วางแผน และสั่งการก่อสร้างอาคารสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ตลอดจนในโรงงาน หรือสถานที่ประกอบการอื่น ๆ
- วิเคราะห์ และหาแนวทางในการเลือกใช้วัตถุดิบต่าง ๆ ในเหมาะกับงาน สิ่งแวดล้อม และผู้คนที่จะมาใช้ชิ้นงานนั้น
- เลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับงาน วิศวกรจึงต้องเป็นผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีอยู่ตลอดเวลา เพื่อจะเลือกมาใช้ให้เพราะกับงานที่ตนเองกำลังทำอยู่
- งานวิศวะส่วนหนึ่งต้องอยู่กับการแก้ปัญหาด้วยเช่นกัน เพราะเครื่องจักรที่เราใช้อยู่อาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นได้  วิศวกรจึงต้องรับมือกับปัญหาส่วนนั้นด้วย
- ตรวจสอบ และทดสอบ ตลอดจนประเมินเวลาในการดำเนินการงานในแต่ละโครงการ ว่าจะสำเร็จเสร็จสิ้นเมื่อใด

สถาปนิก / มัณฑนากร
- หน้าที่ของสถาปิก หรือ มัณฑนากร คือ ออกแบบสิ่งก่อสร้างต่างๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการของเจ้าของบ้าน นายทุนว่าจ้าง
- ซึ่งการออกแบบ เขียนแบบแต่ละครั้งต้องใช้ความรู้ ความสามารถ ทั้งทางศิลปะและเทคนิค ให้สอดคล้องกับสถานที่ สภาพภูมิ ภูมิอากาศ กฎหมาย โดยคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยและประหยัด ตามความต้องการของเจ้าของบ้านมากที่สุด
- สถาปนิก ต้องออกแบบรายละเอียดก่อสร้าง (Design Development หรือ DD) พร้อมคำนวณค่าใช้จ่ายตามเนื้องานอย่างเหมาะสม
- สถาปนิกมักทำงานร่วมกับวิศวกร ระหว่างทำการก่อสร้างเพื่อให้ใช้วัสดุตามที่วางไว้ตามที่กำหนดตามเงื่อนไข รวมถึง ให้คำปรึกษาเรื่องงานกับวิศวกรด้วยเช่นกัน
- ความแตกต่างระหว่างวิศวกรตรงที่ สถาปนิกเมื่อแก้ไขดัดแปลงให้สมบูรณ์แล้ว จึงส่งแบบให้กับวิศวกรทำการก่อสร้าง

ช่างหลังคา / ช่างโครงสร้าง
- ช่างหลังคา มักทำงานควบคู่กับช่างโครงสร้าง หน้าที่ จัดหาเหล็กโครงสร้างจากแบบที่วิศวกรและสถาปนิกได้ออกแบบไว้
- ช่างโครงสร้าง ขึ้นโครงบ้านและหลังคา ดังนั้น ช่างควรทำการปรึกษากับช่างรับเหมาเรื่องวัสดุโครงสร้างให้ดี หาร้านซัพพลายขายเหล็กทีมีความเชี่ยวชาญด้านการจัดหา ส่งเหล็กไว และมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา เพื่อได้โครงสร้างเหล็กที่มีคุณภาพสูงสุด
- ช่างต้องมีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ด้านโครงสร้าง และมีทักษะ เทคนิค เฉพาะตัว เพื่อได้โครงสร้างที่แข็งแรง ทนทานมากที่สุด

ช่างปูน
- สำหรับงานปูน ต้องใช้ช่างปูนที่มีทักษะ ความสามารถพิเศษ เพราะต้องใช้ศิลปะ เพื่อสร้าง ผลิตและปรับปรุงงานก่อสร้าง
- ซึ่งต้องใช้ความชำนาญในการฉาบปูน เริ่มจากการผสมปูนก็ต้องมีสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อให้เวลาฉาบปูนไม่แตกแยก เรียบเนียนเพื่อความสวยงาม
- ฉาบปูนมีทั้งโครงสร้าง เป็นส่วนที่ใช้รองรับน้ำหนักของตัวอาคาร งานฐานราก รับเสา คาน ต่างๆ
- และรวมไปถึง งานปูนประณีต งานปูนเฟอร์นิเจอร์ งานปูนสุขภัณฑ์ เช่น ฉาบปูนห้องน้ำ เป็นต้น ซึ่งการฉาบปูนแต่ละที่ก็ต้องใช้ทักษะที่แตกต่างกัน ตามความเหมาะสมของพื้นที่นั้นๆ

ช่างไฟ
- หน้าที่ของช่างไฟฟ้า สำคัญอย่างมากในการสร้างบ้าน 1 หลัง แนะนำควรใช้ช่างเจ้าเดียวและเดินระบบงานทั้งหลัง เพื่อความเชื่อมโยงมากที่สุด
- ช่างไฟ ต้องรับผิดชอบสโตร์ และอะไหล่ที่ต้องการเสนอต่อต้นกลเรือและต้องสำรวจรายละเอียดของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่อยู่ทั้งหมด
- ช่างไฟต้องทำการติดตั้งระบบไฟทั้งหลัง รวมถึงทำการบำรุงรักษาและซ่อมแซมหากเกิดความเสียหาย
- ช่าง ไฟต้องรับผิดชอบติดตั้งเรื่องความปลอดภัย การทำงานของเครื่องไฟฉุกเฉิน แบตเตอรี่ต่างๆให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ดี เช่น ระบบเตือนควัน ,ไฟ Alarm ในห้องเครื่องและ Safety alarm ต่างๆ
- ช่างควรมีความด้านอุปกรณ์เกี่ยวกับไฟฟ้าทั้งหมด หรือคอยศึกษาเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่มาใหม่ เพื่อสามารถซ่อมได้หากเจ้าของบ้านมีปัญหาเกิดขึ้น

ช่างประปา
- ช่างประปา ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์เกี่ยวกับการวางท่อประปา การเชื่อมต่อท่อ และการไหลของน้ำ
- ช่างจะต้องมีความสามารถในการซ่อมแซมระบบประปาให้กลับมาใช้ได้ใหม่
- สามารถประปรับเปลี่ยนอุปกรณ์สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ประกอบสุขภัณฑ์ที่ชำรุดออกพื้น ผนัง และติดตั้งใหม่ อุปกรณ์ใหม่กลับเข้าไปงานได้ปกติ

ช่างกระจก
- ช่างมีหน้าที่ออกแบบ เลือกกระจกให้ตรงกับลักษณะบ้าน ทั้งด้านชนิดของกระจก รูปลักษณ์ดีไซน์ สี และขนาด
- ช่างกระจกสามารถติดฟิล์มได้ และมีความเข้าใจ มีความรู้ เกี่ยวกับชนิดของฟิล์มแต่ละชนิด
คุณสมบัติมีความประณีต ละเอียด ใส่ใจ เป็นพิเศษ สำหรับช่างกระจก

ช่างทางสี
- หน้าที่ของช่างทาสี เป็นช่างที่ทำหน้าที่เป็นคนสุดท้ายของโครงการสร้างบ้าน เพื่อทาสีตกแต่งบ้านให้เกิดความสวยงาม
- แต่ส่วนใหญ่ช่างทาสี มักใช้เวลาลงสีหลังจากฉาบปูนเรียบร้อยประมาณ 7 วัน จึงสามารถลงสีรองพื้นได้ จากนั้น ทิ้งให้แห้งอีก 3 วัน จึงสามารถลงสีจริงได้
- ส่วนใหญ่ระยะเวลาการรอให้ปูนแห้ง ในฤดูร้อนมักถึงไว้ 7 วัน และฤดูฝนอากาศชื้น ควรทิ้งอย่างน้อย 2 อาทิตย์เป็นต้นไป
- ช่างทาสีต้องมีความประณีตสูง และเข้าใจความเป็นศิลปะ เพราะบ้านในปัจจุบัน การทาสีบ้านอาจไม่ได้ใช้แค่ใช้สีเดียว แต่อาจใช้หลายสี และใช้สีที่ต้องผสมขึ้นมา เพื่อได้สีที่เป็นเอกลักษณ์มากที่สุด
คุณสมบัติของช่างที่เจ้าของบ้านต้องการ
- มี ความสามารถและเชี่ยวชาญในด้านนั้นจริงๆ ช่างแต่ละสายต้องมีความรู้ ความชำนาญในสายงานของตนเองอย่างถ่องแท้ รู้ทั้งด้านทฤษฎีและด้านภาคปฏิบัติ จำเป็นต้องรู้ต้นต่อ สาเหตุ หากงานก่อสร้างบางอย่างต้องซ่อมแซม ต้องสามารถหาต้นเหตุ ปลายเหตุและแก้ไขได้ จะเกิดความเชี่ยวชาญได้ช่างจะต้องใช้เวลาจึงจะเกิดความเชี่ยวชาญได้
- รู้เทคนิค เคล็ดลับ เฉพาะตัว ช่างที่เป็นที่ต้องการของเจ้าของบ้าน มักจะมีเอกลักษณ์เฉพาะ เทคนิคที่ไม่เหมือนใคร สามารถแนะนำวัสดุ อุปกรณ์ที่สามารถช่วยลดงบประมาณ ประหยัดเวลาให้กับเจ้าของบ้านได้
- ตรงต่อเวลาและมีแบบแผน ช่างต้องมีตารางเวลาการก่อสร้างของทุกๆฝ่าย เพื่อรู้เวลาสร้างบ้านทั้งหลังจะเสร็จสิ้นตอนไหน ช่างควรทำงานให้ทันเวลาที่กำหนดของแต่ละฝ่าย จะได้ไม่เป็นการกระทบต่อช่างฝ่ายอื่นๆ
- มีทักษะด้านการติดต่อประสานงานและมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี เนื่องจากการสร้างบ้าน 1 หลัง ต้องใช้ช่างหลายฝ่าย ตามที่กล่าวข้างต้น ดังนั้น ช่างแต่ฝ่ายต้องมีทักษะด้านการเจรจา พูดคุยงานอย่างมืออาชีพ เพื่อทำให้งานก่อสร้างไม่ติดขัดและเข้าใจตรงกันได้
- มีความปลอดภัยต่อการทำงานก่อสร้าง ช่างจะต้องรู้และเข้าใจกฎการทำงานก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอน กระบวนการงานก่อสร้าง หรือ ชุดป้องกันระหว่างการทำงานต่างๆ
- ต้องซื่อสัตย์สุจริต เพราะงานก่อสร้างบางโครงการ เจ้าของโครงการได้ให้เงินค่าก่อสร้างมาใช้บางส่วน ดังนั้น ช่างไม่ควรโกง หรือ นำเงินไปใช้ในทางที่ผิด ไม่เกี่ยวกับงานก่อสร้าง หรือบวกราคาก่อสร้างเพื่อหาผลประโยชน์เข้าตนเอง
- พลานามัยที่สมบูรณ์ สุขภาพร่างกายของช่างก่อสร้างทุกตำแหน่ง เป็นสิ่งสำคัญของทุกๆอาชีพ โดยเฉพาะอาชีพที่ต้องใช้กำลังกายอย่างอาชีพช่าง จำเป็นต้องเช็คร่างกาย ตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด


ติดต่อสอบถาม