สวัสดี

ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สระว่ายน้ำ มีกี่ชนิดมีแบบไหนบ้าง บทความนี้เราจะมาให้ความรู้เกี่ยวกับระบบต่างๆของ  (อ่าน 2219 ครั้ง)

Admin
  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1088
    • ดูรายละเอียด
สระว่ายน้ำ มีกี่ชนิดมาดูกันเป็นบทความของคนที่ต้องการสร้างสระน้ำไว้ในบ้านของตัวเองแต่ไม่รู้ว่า จะเลือกแบบนี้ไหน ซึ่งแน่นอนว่า เราไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้ ว่า ควรจะใช้สระแบบไหน หรือ ระบบน้ำประเภทใด เพราะอย่างไรซะ ช่างเขาก็จะทำให้เราอยู่แล้ว แต่ในความเป็นจริงนั้น เราจำเป็นต้องหาข้อมูลไปก่อนที่จะ

คุยกับช่าง เพราะช่างเขาเองไม่รู้หรอกว่า คนในครอบครัวของเรานั้น เหมาะกับสระแบบไหน หรือ ระบบน้ำประเภทใด ดังนั้น คุรควรจะหาข้อมูลก่อนที่จะไปคุยกับช่าง ในบทความนี้ เราจะนำคุณไปพบกับรูปแบบ ประโยชน์ของการว่ายน้ำและระบบน้ำ กันว่ามีอะไรบ้างแบบไหน ที่จะเหมาะสมกับคุณ

สระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำที่มีอยู่ในปัจจุบัน มีอยู่ด้วยกัน 2 ระบบ และ มีระบบบำบัดน้ำอยู่ที่ 3 แบบ เรามาดูกันว่า มีอะไรบ้าง

1. OVER FLOW ระบบนี้คือ ระบบน้ำล้นออกจากสระ ซึ่งไหลผ่านรางระบายน้ำออกไปสู่บ่อพักน้ำ (Surge Tank) แล้วก็ใช้ปั๊มน้ำดูดเข้าผ่านเครื่องกรอง (Filter) เพื่อทำการกรองและฆ่าเชื้อโรค ก่อนไหลวนกลับลงสู่สระซึ่งทำให้ผิวน้ำแลดูตึงสวยสะอาดอยู่ตลอดเวลา

ซึ่งข้อดีคือ ทำให้ดูแผ่นน้ำตึงขอบสระสวย แต่ข้อเสียน่ากลัวกว่าคือ ทำให้เกิดการหมักหมมของเศษสิ่งสกปรกบริเวณรางน้ำขอบสระ ซึ่งมักจะใช้ Granate Grill ปิดเอาไว้ หรือใช้กรวดเป็นตัวปิดความสกปรก เมื่อคุ้ยกรวดออกจะเห็นเหมือนท่อระบาย

2. SKIMMER SYSTEM ระบบนี้คือ ระบบที่น้ำในสระจะถุกนำไปบำบัด โดยผ่านช่องด้านข้างของผนังสระ (SKIMMER BOX) ทำให้ผิวน้ำอยู่ในระดับต่ำกว่าพื้นรอบสระ ประมาณ 4 – 10 ซม. เพื่อทำการกรองและฆ่าเชื้อโรค ก่อนไหลวนกลับลงสู่สระ

สำหรับข้อดีนั้นทำให้น้ำไหลผ่านระบบด้วยระยะทางสั้นกว่า เพราะไม่ต้องผ่าน Surge Tank ทำให้ใช้น้ำปริมาตรที่น้อยกว่าระบบน้ำล้น แถมไม่ทำให้เกิดการหมักหมมระหว่างทางเดินของน้ำ

ส่วนข้อเสีย ระดับน้ำจะต่ำกว่าขอบประมาณ 4 -10 ซม. จะไม่ดูแผ่นน้ำตึงปิดขอบสระเหมือนระบบน้ำล้น ซึ่งก็คงต้องเลือกว่า ต้องการ ความสวยงาม หรือความสะอาดมากกว่ากัน

สระว่ายน้ำ ส่วนระบบบำบัดน้ำมีด้วยกัน 3 ระบบคือ
1. ระบบคลอรีน ระบบนี้เป็นระบบฆ่าเชื้อโรคที่นิยมใช้กันมาก เพราะมีราคาถูกและมีประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำพอสมควร ซึ่งคลอรีนเป็นสารที่ทำให้เกิดความระคายเคืองกับผิวหนัง ดังนั้น การเติมคลอรีน ควรเติมในช่วงเย็นหลังจากที่ใช้สระเสร็จแล้ว

และควรเปิดเครื่องกรองให้ทำงานทิ้งไว้อย่างน้อย 3-4 ชั่วโมง เป้นข้อเสียอย่างหนึ่ง สำหรับคนที่แพ้คลอรีน อย่างนั้น ก้คงต้องดูหน่อยว่าคนในบ้าน ใครบ้างที่แพ้คลอรีน

2. ระบบน้ำเกลือ เป็นระบบควบคุมความสะอาดของน้ำ ด้วยระบบเกลือ โดยอาศัยเครื่องฟอกน้ำ บรรจุเกลือที่มีสมรรถนะสูง เรียกว่า salt-chlorinnator สามารถรักษาน้ำในสระให้สะอาดเหมือน น้ำในทะเล ( แต่เค็มน้อยกว่าน้ำทะเล 10 เท่า )‏ เกลือจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวหนัง และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมถือเป็นระบบบำบัดน้ำที่น่าสนใจอย่างมาก

3. ระบบโอโซน เป็นระบบการนำเอาก๊าซโอโซนถือว่าเห็นได้น้อยมา ซึ่งผลิตจากเครื่องอัดอากาศ มาบำบัดน้ำในสระ มีประสิทธิภาพสูง สามารถฆ่าเชื้อโรคในระยะเวลาอันสั้นกว่าระบบอื่นและไม่มีสารเคมีทุกชนิดตกค้างในน้ำ แต่แน่นอนว่า ค่าใช้จ่าย ก็คงสูงกว่า สอง ระบบที่ว่ามา

ดังนั้น หากคุณสนใจจะทำสระที่บ้านจริงๆ คงต้องคิดมากหน่อยว่าจะเอาแบบไหนดี เพื่อที่จะทำให้เหมาะกับทุกคนในบ้าน แต่เชื่อเถอะว่า ถ้าคุณชอบความสวยงาม ก็คงเลือก ระบบคลอลีน แต่ถ้าคุณเลือกที่จะปลอดภัยกับคนในบ้าน ก็คงเป็น ระบบเกลือ แต่ถ้าคุณมีงบสูงหน่อง ก็คงเป็นระบบโอโซน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและความพอใจของผู้ใช้เสมอ ส่วนตัวผู้เขียนก็คงเลือกระบบไหนไปไม่ได้เลยนอกจากระบบน้ำเกลือ เพราะ สุขภาพของเราสำคัญที่สุด ครับ ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันจนจบนะครับ รอติดตามอ่านบทความดีๆจากเรา  ได้ตลอดนะครับ

หากท่านสนใจให้บุตรหลานเรียนว่ายน้ำหรือตัวท่านเองอยากที่จะออกกําลังกายแอดไลน์มาปรึกษาเราได้เลยที่ลิ้งด้านล่างนี้

ติดต่อสอบถาม