สวัสดี

ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ความรู้เริ่มต้นที่มือใหม่ควรรู้ก่อนเริ่มเล่นเครื่องเสียง  (อ่าน 3314 ครั้ง)

Admin
  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1088
    • ดูรายละเอียด
ความรู้เริ่มต้นที่มือใหม่ควรรู้ก่อนเริ่มเล่นเครื่องเสียง

ที่ผ่านมาผมได้รับคำถามหลังไมค์เกี่ยวกับเรื่องเครื่องเสียงมาพอสมควร ส่วนใหญ่ก็ถามเรื่องสินค้า ของตัวนู้นตัวนี้  แต่ผมสังเกตหลายหนว่า ส่วนใหญ่จะมีคำถามจากนักเล่นมือใหม่ที่เริ่มสนใจเครื่องเสียงมือแต่ยังไม่มี ความรู้ ถามเป็นคำถามปลายเปิดกว้างๆ ซึ่งบางทีก็ลำบากใจในการตอบ เพราะเป็นเรื่องพื้นฐานและสำคัญในการเริ่มต้นเล่นเครื่องเสียง แต่เค้าเหล่านั้นไม่รู้จะไปถามที่ไหน จะเดินเข้าไปในห้างก็รับรองว่าต้องโดนฟัน และโดนชุด in the box มาแน่นอน
เมื่อวานผมอธิบายลูกค้าท่านนึงไปยาวมากครับ วันนี้เลยมีความคิดว่า น่าจะรวบรวมทริคและความรู้ระดับเริ่มต้นสำหรับมือใหม่เอาไว้สั้นๆสัก 10 ข้อ เผื่อใครที่ติดตามเพจนี้และยังไม่ได้เล่นชุดเครื่องเสียง จะได้เก็บไว้ไปหาซื้อ ตัดสินใจและศึกษากันครับ

1. เครื่องเสียงแยกชิ้นคืออะไร: ชุดนี้ราคาเท่าไร่? เวลาเราโพสรูปชุดดูหนัง คำถามนี้ต้องมาครับ เครื่องเสียงแยกชิ้นเปรียบก็เหมือนกับเราประกอบคอมเองนั่นแหละ เอา cpu ตัวนึง เอาเคส เอาคียบอร์ด เอาเมาส์ต่างยี่ห้อ เอาจอ แต่เลือกใช้แต่ของดีๆที่เราถูกใจมาผสมรวมกันและยำกลายเป็นชุดหนึ่งชุด บางยี่ห้อใจดีจัดชุดจัดเซ็ทไว้ให้ แต่ก็ต้องซื้อแอมป์แยกอีก เครื่องเสียงแยกชิ้นเราว่ากันเป็นชิ้น แต่ละชิ้นสเปกยังไงราคาเท่าไร่ จะไม่ค่อยมียี่ห้อไหนที่จัดเซ็ทมาสำเร็จครับ
มือใหม่จะเข้าใจว่าเครื่องเสียง ก็เหมือนในห้างที่ขายเป็นเซ็ท มียี่ห้อ ให้ลำโพงมาครบ เสียบปลั๊กใช้ได้เลย แบบนั้นเรียก In the box ครับ

2. ชุดใหญ่สุดราคาเท่าไร่: ย้อนกลับไปคำถามแรกนั้นแหละ เครื่องเสียงแยกชิ้นไม่มีคำว่าใหญ่สุดหรอก จะจัดให้ใหญ่อลังการ ราคารวมเป็นล้านก็ได้ เปรียบให้เข้าใจง่ายๆ เวลาเราเดินไปโชว์รูมรถ เราบอกเอาตัวท๊อป ตัวแพงสุด แบบนี้เข้าใจตรงกันเพราะคำว่าใหญ่สุดมันมีตัวเดียว มียี่ห้อเดียวในโชว์รูมยี่ห้อนั้น
แต่เครื่องเสียงแยกชิ้นคำว่าดีสุดไม่มีครับ มีแต่เหมาะที่สุดกับงบประมาณและการใช้งานของคุณ
 
3. ก่อนซื้อ ตอบตัวเองได้หรือยังว่าจะเอาเครื่องเสียงไปทำอะไรและฟังที่ไหน จะดูหนัง หรือฟังเพลง หรือทั้งคู่: ที่ต้องถามเพราะลูกค้ามือใหม่ 99% มาถามผมว่าจัดชุดให้หน่อย ผมถามกลับไปว่าเอาไปใช้ทำอะไร และที่ไหนครับ ไม่ได้กวน.... ครับแต่ต้องถามจริงๆ เหมือนคนเดินมาจะซื้อรถคันนึง แล้วผมจัดรถบบรทุกให้ไป แต่คุณจะเอาไปขับแถวสีลมส่งลูกไปโรงเรียนแบบนี้ก็ไม่ได้
เรื่องคือบางคนอยากดูหนังสมจริง แบบนี้ต้องจัดชุด Home Theater เริ่มต้น 5.1 ให้เค้า มี AVR แต่บางคนเค้าจะเอาไปใช้แทนลำโพงทีวี จะเอาไปต่อกับคอม จะเอาไปฟังเพลง 2 แชนแนล แบบนี้ไปจัด AVR ให้เค้าไม่ได้ ใช้แค่ลำโพงคู่หน้าสองตัวพอ เซ็นเตอร์ไม่ต้อง อาจจะมี Int amp อีกตัว หรือจัด active speaker คู่เดียวจบ หรือจัด sound bar ไปเลย
บางคนบอกจะเอาไปฟังเพลง ผมถามฟังที่ไหน จะเอาไปใช้ในโรงรถ ใต้ถุนบ้าน หรือจะเอาไปใช้ในเวทีที่ร้าน แต่จะใช้ซับและเครื้องเสียงบ้าน แบบนี้ก็ใช้งานได้ครับ แต่มันผิดวัตถุประสงค์ เร่งให้ตายก็เสียงไม่ดี แถมอายุการใช้งานก็สั้น แบบนี้ก็ต้องจัดชุด PA ให้เค้า มันดูยุ่งยากครับ แต่มันก็เป็นจุดเริ่มต้นถ้าคุณเดินมาผิดทาง มันก็ผิดไปตลอด เหมือนติดกระดุมผิดเม็ดแรก เม็ดต่อไปก็ต้องผิดไปตลอด ต้องรื้อติดใหม่ หรือขายทิ้งซื้อใหม่หมด เสียทั้งเวลาเสียทั้งเงิน ตอบคำถามตัวเองให้ได้ก่อนครับว่าจะเอาเครื่องเสียงไปใช้งานอย่างไรและที่ไหน
 
4. จุดเริ่มต้นของการดูหนัง สิ่งที่คุณต้องใช้มีหลักๆ 5.1 ชิ้น อันนี้แค่เริ่มต้นนะ ถ้าเล่นไปมากกว่านี้มีให้เสียเงินมากขึ้นไปอีก แต่ละชิ้นไปเลือกมาต่างยี่ห้อได้ ผสมกันได้ หรือจะใช้ซีรี่ย์เดียวกันได้ยิ่งดี
 
    - แอมป์ดูหนัง : บ้านเราเรียก AVR หรือ Audio Video Receiver ใช้ควบคุมและถอดรหัสทั้งภาพและเสียง
    - ลำโพงคู่หน้า x 2: ใช้เล่นเสียงดนตรี soundtrack, effect ต่างๆ แพนเสียงด้านข้าง และใช้ฟังเพลง
    - เซ็นเตอร์: ใช้ถ่ายทอดเสียงพูด effect ต่างๆที่เกิดขึ้นตรงหน้า
    - เซอราวด์ x2: ใช้ถ่ายทอดเสียงด้านหลัง หรือเสียงบรรยากาศรอบๆ
    - ซับวูฟเฟอร์: ใช้ถ่ายทอดความถี่ต่ำ หรือเบสนั้นแหละ ให้มีบรรยากาศแน่นๆ โครมๆปึ๊กๆ ส่วนถามว่าถ้าใช้คู่หน้าตัวใหญ่ๆแทนได้มั๊ย ตอบว่าไม่ได้ คู่หน้าไม่ได้ออกแบบมาสำหรับความถี่ต่ำคุณภาพดีแบบที่ภาพยนตร์บันทึกมา ถ้าไม่มีซับวูฟเฟอร์ก็ดูหนังได้ แต่จะขาดอรรถรสความถี่ต่ำที่ควรจะได้ พูดง่ายๆคือไม่ได้บรรยากาศแบบในโรงนั่นแหละ
เอาแค่นี้ก่อน นี่แค่เริ่มต้น 5.1 ถ้าเพิ่มเป็น 7.2.2 หรือ 7.2.4 ก็จะมีซับวูฟเฟอร์เพิ่มขึ้นมาและมีลำโพงด้านบนขึ้นมาอีก แต่ช้าก่อน นั่นไม่ใช่มือใหม่แล้ว วันนี้เราเอาแค่นี้ก่อน
 
ส่วนจุดเริ่มต้นของการใช้งานด้านอื่นๆดูหนังฟังเพลงก็มีทางเลือกอื่นอีกมากครับ ทั้ง Sound bar, Active sperker (ลำโพงคอม/บลูทูธที่ไม่ต้องใช้แอมป์) หรือส่วนใครอยากฟังเพลงอย่างเดียวก็ต้องเริ่มที่ลำโพงคู่หน้าดีๆสักคู่และแอมป์ฟังเพลง (คนละตัวกับแอมป์ดูหนัง) ซึ่งจะเรียกว่า integrated amp หรือ Stereo Receiver อะไรก็แล้วแต่

5. เลือกยังไงดีละ อ่านสี่ข้อด้านบนแล้วปวดหัวตึ๊บเลย ตอบง่ายๆ ตอบข้อ 3 ให้ได้ก่อน สำคัญที่สุด และถามตัวเองว่ามีงบประมาณเท่าไร่ แค่นี้ก็ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ
เช่น บอกอยากดูหนังฟังเพลง ในห้องนอน มีงบ 3 หมื่นบาท แบบนี้ง่ายเลย ไปชุด Home Theater สำเร็จอย่าง Onkyo ได้เลย มีครบทุกอย่าง
หรือไม่ก็เล่นลำโพงแซทเทิลไลท์เป็นชุดที่จัดชุดไว้เช่น Klispch Quintet V, SVS Prime แล้วซื้อ AVR มาตัวนึงในราคาระดับเริ่มต้น แล้วจบ
แต่ถ้าบอกงบ 5-6 หมื่นขึ้นไป อันนี้จะมีตัวเลือกเพิ่มขึ้นมาอีก

6. เครื่องเสียงแยกชิ้น งบประมาณเท่าไร่ถึงจะเริ่มเล่นได้
ตอบ: 2-3 หมื่นขึ้นไปก็เล่นได้แล้ว ลำโพงเป็นชุดเดี้ยวนี้ก็หมื่นต้นๆก็มี AVR ราคาหมื่นต้นๆก็มีขาย 3 หมื่นได้ครบหมดสบาย ถ้าเล่นมือสองยิ่งได้ถูกลงไปอีก
แต่ถ้าถามว่าอยากเล่นแยกชิ้นให้สนุก มีตัวเลือกเยอะๆ ผมแนะนำว่างบประมาณควรว่ากันที่ 5-7 หมื่นขึ้นไปจนไปถึงหลักแสน จะสนุกและมีตัวเลือกในการเล่นอีกเยอะ

7. ซื้อทีไ่หนดี เอาตามสะดวกครับ แต่แนะนำว่า อย่าไปถามหาซื้อ Toyota ในโชว์รูม Honda
แต่ละร้านจะมีจุดขายและแบรนด์สินค้าของตัวเอง คุณเดินไปในห้าง Powerbuy ก็จะได้ชุดแบบนึง ราคาแบบนึง
เดินเขาไปในร้านเครื่องเสียงแยกชิ้นเค้าก็จะเน้นชุดแบบแยกชิ้นของที่ตัวเองเป็นตัวแทน เดินเข้าไปในร้านใหญ่ๆสาขาๆเยอะๆที่คุณก็รู้ว่าร้านอะไร... คุณก็จะได้ชุดระดับไฮเอ็นด์หน่อยพร้อมความสะดวกสบายครบวงจร เดินเข้าไปในร้านระดับซูเปอร์ไฮเอ็นด์ คุณก็จะได้ชุดระดับ THX และลำโพงตัวเป็นแสนเป็นล้าน
ตอบข้อ 3 และข้อ 5 ให้ได้ แล้วดูว่าลำโพงแบรนด์และรุ่นที่เราจะซื้อนั้น มันมีขายที่ไหน ร้านอะไร มีให้ลองฟังมั๊ย บางร้านไม่มีห้องลองแต่ราคาดีกว่า บางร้านมีห้องลองครบครันติดแอร์ มีที่จอดรถ อยู่ในห้าง แต่ราคาต่างกันนิดหน่อย เลือกเอาที่สะดวกครับ

8. ซื้อมาแล้วกลัวติดไมไ่ด้ เดี๋ยวพัง ตอนเด็กๆซื้อโมเดลมาต่อยังหัก ต่อผิดเลย อันนี้สอบถามร้านเค้าก่อนว่ามีบริการติดตั้งให้มั๊ย แล้วต้องการติดระดับไหน แค่ติดแขวนลำโพง หรือตั้งเฉยๆ เดินสายขึ้นฝ้า หรือลากสายบนพื้น แล้วเอาแบบเซ็ทอัพด้วยมั๊ย อันนี้ตกลงกับผู้ขาย และดูด้วยว่าร้านนั้นหากมีปัญหาในการติดตั้งหรือมีคำถามสามารถโทรไปถาม หรือไลน์ไปคุยได้ง่ายๆ เค้ามีคนคอยตอบมั๊ย ไม่ใช่ไปซื้อชุดจาก Powerbuy แต่คาดหวังว่าเค้าจะมาติดตั้งแบบมืออาชีพ เอาไมค์มาเซ็ทเสียงตามหลัก HAA, THX แบบนั้นก็ไม่ได้ หรือตกกลางคืนไลน์ไปถามเซลล์ที่ขายว่าต้องเซ็ทยังไงดี แบบนี้เค้าคงไม่มานั่งตอบให้
แต่ละร้านมีบริการไม่เหมือนกัน เลือกเอาที่เราสบายใจ ไม่สบายใจหรือกังวล อย่าซื้อ
บริการหลังการขายก็สำคัญ ไอ้แบบร้านถูกมากแต่ตัดราคาชาวบ้าน ของศูนย์กำไรตัวนึงหลักร้อย ถ้าไปซื้อร้านแบบนี้มาก็ต้องเข้าใจและยอมรับนะว่าเวลาของมีปัญหาเค้าจะยังไง แล้วอย่าซื้อร้านนึงแต่โทรไปถามให้อีกร้านนึงมาแก้ปัญหา แบบนี้ไม่น่ารักเลยครับ

9. ซื้อมาแล้วเบื่อ ขายได้มั๊ย ตลาดเครื่องเสียงมือสองก็คล้ายๆตลาดรถ ขายได้ครับ ราคาไม่ได้ตกเยอะมาก มีตลาดขายหลายที่ทั้งในเว็บบอร์ด และใน Facebook กรุ๊ปต่างๆ จะฝากร้านขายก็ได้
 
10. ซื้อมาแล้วใช้งานให้มีความสุข ศึกษาคู่มือ ลองเล่นฟังชั่นต่างๆให้ครบ มีปัญหาปรึกษารุ่นพี่ในวงการ ปรึกษาคนขาย (กรณีถ้าถามเค้าได้) ซื้อมาแล้วหยุดเปรียบเทียบ แต่พยายามเซ็ทและเค้นเสียงของชุดเราออกมาให้ดีที่สุดก่อน เบื่อแล้วค่อยไปลองดูลองฟัง ลองศึกษาชุดคนอื่น รุ่นอื่นก็ไม่เสียหาย



ติดต่อสอบถาม