เลือกมุ้งลวดอย่างไรไม่ให้ปวดหัว!

เลือกมุ้งลวดอย่างไรไม่ให้ปวดหัว!มุ้งลวดเป็นอุปกรณ์ตกแต่งบ้านอีกชนิดหนึ่งที่เรียกได้ว่ามีประโยชน์อย่างมากในการช่วยป้องกันแมลง เช่น ยุง ไม่ให้เข้ามาภายในบ้านของเราได้ ปัจจุบันมีการเลือกใช้กันอย่างแพร่หลาย และเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกบ้านต้องมีการติดตั้งไว้ ดังนั้น บทความนี้จะช่วยให้คุณรู้ว่าควรจะเลือกมุ้งลวดแบบไหนอย่างไรเพื่อไม่ให้มีปัญหาจุกจิกกวนใจได้ในภายหลัง

1. ติดมุ้งลวดกันทำไม?
มุ้งลวดคืออุปกรณ์ที่ติดตั้งบริเวณบานประตูและหน้าต่าง เพื่อป้องกัน สัตว์ร้าย แมลงต่าง ๆ ไม่ให้เข้าสู่ตัวบ้าน เช่น ยุง แมลงสาบ ตะขาบ หนู หรืองู เป็นต้น นอกจากนี้ มุ้งลวดยังช่วยบังแสงแดดที่จะสาดเข้ามาในบ้านให้อ่อนลง และยังป้องกันเศษผงและฝุ่นต่างๆ ที่ลอยมาตามลมเพื่อไม่ให้เข้าสู่ภายในบ้านอีกด้วย2. มุ้งลวดมีแบบไหนบ้าง?
ในปัจจุบันพบว่ามุ้งลวดแบ่งเป็น 4 รูปแบบด้วยกันคือ
1. แบบบานเลื่อน มีทั้งแบบบานเดี่ยวและบานคู่ ซึ่งคุณสมบัติการใช้ก็แตกต่างกันไป โดยสามารถติดตั้งแบบรางบนและล่าง ติดตั้งด้านในของวงกบ หรือจะติดตั้งขอบวงกบก็ได้
2. แบบพับจีบ เป็นดีไซต์การติดตั้งแบบญี่ปุ่นมีลักษณะคล้ายพัด แบ่งได้เป็น 2 แบบมีแบบรางและไม่มีราง ซึ่งแตกต่างกันออกไปตามการใช้งาน
3. แบบม้วนเก็บ ใช้งานง่ายและสามารถพับเก็บได้ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากด้วยความสะดวกสบายและความทันสมัย
4. แบบแม่เหล็ก สามารถติดตั้งได้เอง ทั้งง่ายและสะดวก สามารถหาได้ตามท้องตลาดทั่วไป  3. มุ้งลวดทำจากอะไรได้บ้าง?
มุ้งลวดโดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 4 ชนิดด้วยกัน ได้แก่

อะลูมิเนียม นิยมใช้กันในปัจจุบัน มีราคาไม่สูง แต่ก่อนนำมาใช้งานต้องมีการนำไปล้างเอาคราบน้ำมันจากการทออะลูมิเนียมออกให้สะอาดเสียก่อน จากนั้นจึงนำมาติดตั้งใช้งาน งานมุ้งลวดอะลูมิเนียมจะมีความมันวาวสีขาวสะท้อนแสง มองผ่านผืนมุ้งลวดได้ไม่ชัดเจนนัก มีความตึงตัวสูงไม่หย่อนง่ายจึงเป็นที่นิยมอย่างมาก แต่อาจจะมีความผุกร่อนและเป็นสนิมได้ง่ายเมื่อโดนความชื้น การติดตั้งต้องใช้ความชำนาญเพื่อไม่ให้โย้หรือโยก ไม่ตรงแนว
ไฟเบอร์ เรียกอีกอย่างคือ ใยแก้ว เป็นวัสดุสังเคราะห์พิเศษ ซึ่งจะไม่เกิดปัญหาของสนิมโลหะ มองทะลุผ่านผืนมุ้งลวดทะลุได้ชัดเจน มีความคงทนต่อการกัดกร่อนสูง ทนร้อนไม่ติดไฟ มีความเหนียวยืดหยุ่นสูง แต่หากใช้ไปนานๆ อาจคลายตัวหรือหย่อน หากโดนกระแทกจะเสียรูปทรงได้ง่าย
ไนลอน มีความเหนียวทนทาน แต่มีความหนา ไม่โปร่งสบายตา ด้วยความหนาของเส้นไนลอน ทำให้ไม่สามารถถ่ายเทอากาศได้ดีเท่าที่ควร
มุ้งลวดนิรภัย เป็นการผสมผสานกันระหว่างมุ้งและเหล็กดัดเข้าด้วยกัน ทำจากตาข่ายเหล็กไร้สนิม ทนทานต่อแรงดึง กรีด ตัดไม่ขาด งัดแงะกระแทกไม่เกิดความเสียหาย แต่มุ้งลวดชนิดนี้ค่อนข้างมีราคาสูงจึงยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก 4. ติดมุ้งลวด แก้ได้ทุกปัญหา?
การติดตั้งมุ้งลวดก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่เหมือนกัน โดยเราแยกได้ดังนี้

ข้อดีมุ้งลวด
1. กันฝุ่น กันแมลง สัตว์มีพิษ และป้องกันสัตว์พาหะนำเชื้อโรคเข้าภายในบ้านได้
2. หากเปิดประตูหน้าต่างที่ติดมุ้งลวด จะช่วยถ่ายเทอากาศเข้าสู่ภายในบ้านได้อย่างสะดวก

ข้อเสียมุ้งลวด
1. หากใช้ไปนาน ๆ จะเกิดฝุ่นคราบสกปรกเกาะพื้นผิวต้องค่อยทำความสะอาดอยู่บ่อยๆ
2. อาจเกิดความเสียหายชำรุดได้เมื่อมีการใช้พื้นที่บริเวณที่ติดมุ้งลวด เช่น เผลอชนหรือกระแทกใน ทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ ควรเลือกความแข็งแรงของมุ้งลวดตามการใช้ประโยชน์ของพื้นที่นั้น5. ใช้มุ้งลวดแบบไหนใช่ที่สุด?
ควรมีการคำนึงถึงวัสดุที่ใช้และความจำเป็น เจ้าของบ้านเองควรทำความเข้าใจประเภทของมุ้งลวดว่าต้องการใช้เพื่อวัตถุประสงค์อย่างไร ซึ่งมุ้งลวดแต่ละประเภทมีคุณสมบัติในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ควรมีการเลือกให้ตอบโจทย์ความต้องการให้ได้มากที่สุด เช่น

มุ้งไนลอน ที่มีความแข็งแรงด้วยเส้นใยสังเคาะห์ มีความหนา อากาศถ่ายเทได้ยาก แต่ทนทาน จึงไม่เหมาะหากนำไปติดตั้งบริเวณหน้าต่าง
มุ้งอะลูมิเนียม ช่วยให้อากาศถ่ายเทสะดวก แต่มีความผุกร่อนได้ง่าย ใช้ไปนานๆ จะมีการยึดติดไม่ค่อยดี และต้องทำความสะอาดเป็นประจำ
มุ้งเหล็กกล้า ทนต่อการกระแทกหรือการแทงด้วยของมีคม มีความปลอดภัยสูง เหมาะกับการติดตั้งภายนอก แต่ปัจจุบันยังมีราคาสูง
มุ้งไฟเบอร์ หรือ มุ้งใยแก้ว ทนทานต่อการผุกร่อนได้ดี ไม่เป็นสนิมเพราะมีการผลิตด้วยความร้อนสูง เหมาะมากในบ้านพักต่างอากาศ ชายทะเล แต่ไม่ทนแรงกระแทกมากนัก อาจทำให้เกิดการผิดรูปเสียทรงเดิมได้6. ติดมุ้งลวดด้านไหนดีกว่ากัน?
การติดตั้งมุ้งลวด ทำได้ทั้งด้านในและด้านนอก ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความชอบของเจ้าของบ้าน ซึ่งมีข้อดีข้อเสียต่างกันไป คือ

การติดมุ้งลวดด้านใน เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากการติดตั้งภายในสามารถใช้มุ้งลวดแบบอะลูมิเนียมแบบบาง มีความทนทานน้อยหน่อย แต่ราตาไม่สูงมาก ติดไว้ด้านในช่วยให้รักษาและดูแลง่าย โดยมีประตูเปิดออกทางด้านนอกแทน
การติดมุ้งลวดด้านนอก หากเลือกเอาวัสดุที่มีความแข็งแรงก็จะเป็นทางเลือกที่ดีในเรื่องความปลอดภัย แต่หากเลือกใช้วัสดุที่ไม่มีคุณภาพ ก็จะทำให้มุ้งลวดเสื่อมสภาพเร็วและชำรุดได้ง่ายเมื่อโดนแรงกระแทก7. รางมุ้งลวด - อุปกรณ์เสริมเพิ่มความสวย?
การติดมุ้งลวด นอกจากเรื่องประโยชน์ใช้สอยแล้ว ความสวยงามก็เป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจไม่แพ้กัน รางมุ้งลวดจึงเป็นหนึ่งตัวช่วยตอบโจทย์ข้อนี้ได้ ถ้าหากเป็นวงกบที่ไม่มีรางมุ้งลวด ก็จำเป็นต้องมีขั้นตอนการเสริมรางที่วงกบก่อน จากนั้นจึงหามุ้งลวดแบบจีบเข้ามาตกแต่งเพื่อเน้นความสวยงาม ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับว่าวงกบนั้นมีการออกแบบมาให้สามารถเสริมรางได้หรือไม่ หากสามารถทำได้ ให้พิจารณาในแบบที่ต้องการ เพื่อประเมินว่าหากเสริมรางแล้วจะสามารถติดตั้งมุ้งลวดแบบรางเลื่อนได้หรือไม่ หากไม่ได้ควรติดตั้งแบบพับเปิด-ปิดแทน ซึ่งสามารถใช้งานได้เช่นกัน8. เบื่อมุ้งลวดแบบเก่า เปลี่ยนใหม่แบบไหนดี?
ปัจจุบัน เจ้าของบ้านสามารถเลือกเปลี่ยนมุ้งลวดให้ตรงกับใจและสไตล์ของบ้านได้มากมายไม่จำกัด อยู่ที่ว่าวัตถุประสงค์ของการใช้แบบไหนที่เจ้าของบ้านต้องการมากกว่า แต่หากไม่มีความรู้ทางนี้ อาจต้องใช้ความชำนาญและฝีมือทางช่างในเรื่องการคำนวณ การวัดระยะ และปรับโครงสร้างต่างๆ ให้ได้ขนาดที่พอดี สวยงาม ตรงกับการใช้สอย ท่านก็สามารถติดมุ้งลวดแบบที่หาซื้อได้ตามท้องตลาด หรือจะสั่งทำพิเศษก็ได้เช่นกัน9. ต้องเตรียมงบแค่ไหน เพื่อมุ้งลวดในฝัน?
โดยทั่วไปแล้ว ราคาขึ้นอยู่กับพื้นที่ในการนำมาประเมินค่าใช้จ่ายในการติดตั้งมุ้งลวด โดยต้องมีการคำนวณพื้นที่ที่จะติดตั้งก่อนเป็นอันดับแรก ราคาในท้องตลาดจะมีราคาประเมินเบื้องต้นอยู่ที่ 500-2,000 บาท ขึ้นไป แล้วแต่คุณภาพวัสดุที่นำมาใช้เพราะมุ้งลวดในท้องตลาดมีหลายเกรดหลายราคาให้เลือกใช้งาน10. การดูแลมุ้งลวด
มุ้งลวดเมื่อใช้ไปเป็นเวลานาน จะมีการสะสมของสารพัดเศษฝุ่นผงและคราบสกปรกติดตามช่องตาข่าย ดังนั้นเราควรหมั่นทำความสะอาดเพื่อให้มุ้งลวดดูสะอาดและดูดีอยู่เสมอ วิธีทำความสะอาดก็ไม่ยาก มีขั้นตอนดังนี้

1. ทำความสะอาดด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์เก่าที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว อาจใช้ร่วมกับสเปรย์น้ำยาทำความสะอาดฉีดบริเวณมุ้งลวดให้ทั่ว จากนั้นนำหนังสือพิมพ์ไปติดที่บริเวณนั้นทิ้งไว้ 5 นาที แล้วลอกกระดาษหนังสือพิมพ์ออก เศษคราบสิ่งสกปรกที่ติดตามช่องก็จะติดออกมา หากยังไม่หมดทำซ้ำได้เรื่อย ๆ แล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ดอีกครั้งเมื่อเสร็จ
2. ทำความสะอาดด้วยเบกกิ้งโซดา โดยการนำมาผสมน้ำเทลงในภาชนะ เช่น ขวดสเปรย์หรือภาชนะถังน้ำ ใช้แปรงเล็กๆ จุ่มลงไป แล้วนำไปขัดทำความสะอาดตามบริเวณที่ต้องการ เสร็จแล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ดซ้ำให้แห้ง
3. ทำความสะอาดด้วยน้ำส้มสายชู สามารถหาได้ง่ายตามห้องครัวของทุกบ้าน นำมาผสมน้ำแล้วฉีดหรือใช้ผ้าสะอาดชุบแล้วเช็ดบนพื้นผิวที่ต้องการ จากนั้นเช็ดออกด้วยผ้าขาวให้สะอาดหมดจด
ติอต่อช่างงานเหล็ก