สวัสดี

ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ การตัดแต่งหญ้า  (อ่าน 2117 ครั้ง)

Admin
  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1088
    • ดูรายละเอียด
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ การตัดแต่งหญ้า

หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าหญ้าปลูกอย่างไรก็ขึ้น ไม่ต้องใส่ใจมากนัก แต่ความจริงถ้าต้องการให้พื้นสนามราบเรียบเหมือนปูพรม เรื่องนี้ก็ไม่ง่ายที่จะทำให้สำเร็จ ดังนั้นการบำรุงรักษาหญ้าให้สวยงามจึงเป็นเรื่องจำเป็นเช่นเดียวกับการดูแลพันธุ์ไม้ต่างๆ ทั้งนี้ก็เพื่อให้หญ้ามีสีเขียวชอุ่มเสมอกันทั้งสนาม ช่วยแก้ปัญหาเรื่องแสง เสียงสะท้อน และบรรเทาการฟุ้งกระจายของฝุ่นละอองได้อีกด้วย

การตัดแต่งหญ้า ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้สนามหญ้าหน้าบ้านมีความสวยงาม แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของหญ้าด้วยเพราะมีลักษณะและประโยชน์ใช้สอยแตกต่างกันไป สำหรับหญ้าที่นิยมปลูกกันในปัจจุบันเพราะหาซื้อง่ายก็มีประมาณ 3 ชนิดคือ

หญ้าญี่ปุ่น (Japanese Lawngrass) ใบเล็กละเอียด ปลายใบแข็ง เวลาสัมผัสจะระคายผิวหนัง ชอบแดดจัดทั้งวัน ทนต่อการเหยียบย่ำได้ดี แต่ไม่เหมาะจะใช้นั่งเล่นเพราะมีใบแข็งกระด้าง ในการตัดแต่งหญ้า ชนิดนี้จะต้องใช้เครื่องตัดหญ้าที่มีกำลังสูง และมีใบมีดที่คมมากจึงจะตัดได้เรียบและสวยงาม เพราะหญ้าญี่ปุ่นมีความเหนียว ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานวันก็จะขึ้นเป็นกระจุก หญ้าชนิดนี้จึงต้องตัดให้สั้นประมาณ 0.5-1 นิ้ว โดยตัดทุกๆ 7-10 วัน

หญ้านวลน้อย (Manila Grass) ใกล้เคียงกับหญ้าญี่ปุ่น แต่มีใบกว้างและนุ่มกว่า เติบโตเร็วพอควร ทนต่อการเหยียบย่ำและอุณหภูมิสูงได้ดี แต่ในฤดูแล้งต้องหมั่นรดน้ำอยู่เสมอไม่เช่นนั้นใบจะเหลือง ใช้นั่งเล่นได้ การตัดแต่งหญ้า ชนิดนี้ใช้เครื่องมือได้ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นกรรไกรหรือรถตัดหญ้า โดยตัดทุกๆ 7-14 วัน และควรตัดให้สั้น 0.75-1.5 นิ้ว เพราะมีช่อดอกค่อนข้างยาว (ดอกมีสีน้ำตาลดำ) เมื่อตัดเรียบร้อยแล้วสนามหญ้าจะดูสวยงามคล้ายพรม

หญ้ามาเลเซีย (Tropical Carpet Grass) ใช้ทำสนามหญ้าและจัดสวนหย่อม มีใบใหญ่กว่าใบหญ้าทุกชนิด เหมาะที่จะปลูกใต้ร่มไม้ใหญ่หรือใต้ชายคาบ้านเพราะต้องการแสงแดดน้อย แต่ก็ปลูกกลางแจ้งได้ โดยต้องให้น้ำในปริมาณมากเป็นพิเศษ หากขาดน้ำขอบใบจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีแดงเลือดหมู หญ้าชนิดนี้ไม่ทนต่อการเหยียบย่ำเนื่องจากใบอวบน้ำและเปราะ หญ้ามาเลเซียไม่ต้องตัดบ่อยเหมือนหญ้าอื่นๆ โดยตัดให้สั้นประมาณ 1-2 นิ้ว ทุกๆ 10-15 วัน และใช้เครื่องมือตัดหญ้าได้ทุกชนิด

การบำรุงรักษาสนามหญ้าที่ดีนั้น ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอในปริมาณที่เพียงพอสำหรับหญ้าแต่ละชนิดและสภาพแวดล้อมด้วย เช่น สนามหญ้ากลางแจ้งโดนแดดตลอดทั้งวันก็ต้องให้น้ำในปริมาณที่มากกว่าบริเวณที่มีแสงแดดรำไร การรดน้ำต้องให้ทั่วและเปียกชุ่มถึงปลายราก ในบางกรณีเราอาจงดให้น้ำในบางวัน หากต้องการให้ต้นหญ้าเจริญงอกงามและทนแล้งได้ดี (เมื่อผิวดินเริ่มแห้งต้นหญ้าก็จะแทงรากลึกลงไปในดินหาแหล่งอาหารเพื่อความอยู่รอด ทำให้หญ้ามีรากยาวใช้หาน้ำและอาหารได้มากขึ้น) และเมื่อเราเห็นว่าใบหญ้าเริ่มเหี่ยวก็เริ่มให้น้ำตามปกติ วิธีดังกล่าวควรทำนานๆ ครั้ง และถ้าเป็นไปได้ควรรดน้ำในขณะที่แดดไม่ร้อนจัด อาทิ ตอนเช้าหรือตอนเย็น และควรฉีดเป็นฝอยๆ เนื้อดินจะได้ไม่แน่น

วิธีการตัดหญ้าและขั้นตอนการตัดหญ้า
การตัดหญ้าดูแล้วไม่น่ามีปัญหา มีเครื่องก็ตัดไป หญ้ายาวก็ตัดให้สั้นคิดอย่างนั้นก็ถูกครับ แต่หลายคนอาจเจอปัญหาว่า ทำไมตัดหญ้าเสร็จใหม่ ๆ สนามหญ้าจะกลายเป็นสีเหลืองหรือน้ำตาล ไม่เขียวสบายตาเหมือนก่อนตัด หรือตัดหญ้ายากมาก หญ้าเหนียวตัดลำบาก จนเข็นเครื่องตัดหญาแทบไม่ไหว เราจะมาดูว่าตัดหญ้าอย่างไรจึงจะถูกต้อง
วิธีการตัดหญ้าในที่นี้ขอพูดถึงเฉพาะคนที่ใช้เครื่องตัดหญ้าเท่านั้น ส่วนที่ใช้กรรไกรตัดหญ้าขอยกไว้ในฐานะบุคคลผู้มีความเพียรเป็นเลิศอันไม่สมควรพาดพิงก้าวล่วงด้วยประการใด ๆบางคนเคยตัดหญ้าอยู่บ่อย ๆ อ่านถึงตรงนี้อาจแย้งว่า ไม่เห็นยาก ติดเครื่องได้ก็ลุยเลย ไม่เห็นจะต้องมาพูดพล่ามให้วุ่นวายช้าก่อนครับ ก่อนตัดหญ้ายังมีอย่างน้อยสองสามอย่างที่น่ากระทำก่อน

1. เดินสำรวจสนามให้รอบ ดูว่ามีเศษอิฐเศษหินหลงมาอยู่ในสนามหญ้าของเราหรือไม่ อาจจะมาจากเด็กซน ๆ ข้างบ้านปาเข้ามา หรือจากการแตกบิ่นของพื้นผิวของบ้าน ฯลฯ ถ้าเจอก็เก็บออกให้หมด เพราะเศษหินเศษปูนที่ว่า เป็นตัวบ่อนทำลายใบมีดตัดหญ้าได้อย่างชะงัด
2. ตัดแต่งไม้พุ่มต่าง ๆ ในบริเวณบ้านให้เสร็จสิ้นก่อนตัดหญ้าเสมอ เก็บกวาดกิ่งใหญ่ ๆ ออกให้หมด ส่วนเศษใบเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ตกอยู่ในสนามหญ้า เอาไว้พอเครื่องตัดหญ้าตัดผ่าน เครื่องที่มีกล่องเก็บหญ้าอยู่ด้วยจะดูดเก็บเศษใบไม้เหล่านี้ไปได้เป็นส่วนใหญ่ เป็นการผ่อนแรงไปได้อีกไม่น้อย ช่วยให้ไม่ต้องทำงานซ้ำซ้อน เวลาไหนที่สมควรตัดหญ้า


โทรหาคน ตัดต้นไม้/ตัดหญ้า