สวัสดี

ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: วิธีแก้ไขเบื้องต้นเกี่ยวกับปัญหาของเครื่องกรองน้ำมาฝากกัน  (อ่าน 4252 ครั้ง)

Admin
  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1088
    • ดูรายละเอียด
น้ำ” ที่เราใช้อยู่เป็นประจำก็คือน้ำประปา ที่แม้จะมีผ่านการกรองและฆ่าเชื้อแล้ว แต่เพื่อความสะอาดและความสบายใจ หลายบ้านจึงติดตั้งเครื่องกรองน้ำ เพื่อให้ให้แน่ใจว่าเราใช้น้ำที่สะอาดจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องกรองน้ำสำหรับใช้ หรือเครื่องกรองน้ำสำหรับดื่ม แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป เครื่องกรองน้ำมักเกิดปัญหาจุกจิกมากมาย วันนี้เรามีวิธีแก้ไขเบื้องต้นเกี่ยวกับปัญหาของเครื่องกรองน้ำมาฝากกัน

• ปัญหาเครื่องกรองน้ำอุดตัน ทำให้น้ำไม่ไหลหรือไหลช้า
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำไม่ไหลคือ เครื่องกรองน้ำเกิดการอุดตันจากสิ่งสกปรกที่มาจากน้ำ ทำให้น้ำไม่สามารถไหลผ่านไปได้ โดยมักอุดตัน 2 จุดด้วยกัน (1) อุดตันบริเวณวัสดุกรอง และ (2) อุดตันบริเวณท่อจุดเชื่อมต่อ วิธีแก้ไขเบื้องต้นคือการล้างทำความสะอาด ทั้งวัสดุกรอง ภายในเครื่องกรอง และท่อเชื่อมต่างๆ เพื่อเอาสิ่งอุดตันออกไปนั่นเอง         
• ปัญหาน้ำไหลช้า แม้จะล้างเครื่องกรองน้ำแล้ว
หลายบ้านที่ล้างเครื่องกรองน้ำเพื่อนำสิ่งสกปรกออกแล้ว น้ำก็ยังคงไหลช้า อาจมีสาเหตุจากปัจจัยอื่นๆ อย่างติดตั้งเครื่องกรองน้ำในระดับสูงเกินกว่าแรงดันน้ำจากท่อจะส่งถึง ดังนั้นหากเริ่มติดตั้งเครื่องกรองน้ำใหม่ ควรติดตั้งในระดับความสูงกว่าระดับท่อไม่เกิน 2 เมตร แต่กรณีที่ติดตั้งเครื่องกรองน้ำไปแล้ว แนะนำให้ติดตั้งปั้มน้ำเพิ่มแรงดัน จะช่วยให้น้ำไหลเร็วขึ้น

• ปัญหาชุดกระบอกกรองน้ำขยายตัวจนรั่วซึมและปริแตก
ปัญหานี้มีสาเหตุมาจากแรงดันน้ำที่มากเกินไป โดยปกติแล้วเครื่องกรองน้ำจะสามารถรองรับแรงดันน้ำได้ที่ 4 Bar  ซึ่งน้ำประปาจะมีแรงดันน้ำอยู่ที่ 1 – 1.5 Bar จึงไม่เป็นปัญหากับเครื่องกรองน้ำ แต่ในกรณีที่บ้านมีการติดตั้งปั้มน้ำเพิ่มแรงดันอย่างคอนโดมิเนียม จะทำให้น้ำมีแรงดันที่เพิ่มขึ้น หากแรงดันน้ำสูงกว่า 3 Bar จะเกิดการปริแตกและรั่วซึมของชุดกระบอกกรองน้ำ วิธีแก้ไขคือ ให้ติดตั้งวาล์วลดแรงดันน้ำหรือชุดลดแรงดัน เพื่อลดการขยายตัวของชุดกระบอกกรองน้ำที่ต้องทนแรงอัดจากน้ำเป็นเวลานานนั่นเอง

• ปัญหาไส้กรองหมดอายุ ทำให้น้ำด้อยคุณภาพ
โดยปกติแล้วไส้กรองน้ำจะมีอายุการใช้งานประมาณ 6 เดือน – 1 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแหล่งน้ำและปริมาณการใช้งานที่แตกต่างกัน แต่หลายบ้านมักละเลยหรือลืมวันหมดอายุของไส้กรองน้ำเป็นประจำ ส่งผลให้น้ำที่ได้ด้อยคุณภาพ ทั้งมีกลิ่น และสีขุ่น ฯลฯ  ปัญหานี้แก้ง่ายๆ ด้วยการเปลี่ยนไส้กรองเป็นประจำ แนะนำให้ทำตารางการเปลี่ยนไส้กรองแขวนหรือติดไว้ในที่ที่มองเห็นได้ง่าย โดยเวลาเปลี่ยนไส้กรองแนะนำให้เปลี่ยนทั้งชุด เพื่อความสะอาดมากที่สุด

• ปัญหาน้ำไม่ใส เมื่อเปลี่ยนไส้กรองใหม่
แม้จะเปลี่ยนไส้กรองใหม่แล้ว แต่น้ำที่ได้ยังมีสีเหลืองหรือสีขาวขุ่น โดยปัญหานี้เกิดจากไส้กรองเรซิ่นที่ยังคงใหม่ ทำให้น้ำที่ได้มีสีเหลือง วิธีแก้ไขคือ ปล่อยน้ำให้ไหลผ่านไส้กรองประมาณ 10-20 นาที หรือจนกว่าน้ำจะใส และทุกครั้งที่เปิดใช้งานควรเปิดน้ำทิ้งก่อนทุกครั้ง ครั้งละ 2-3 ลิตร เป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ สารสีเหลืองของเรซิ่นก็จะจางและหายไปเอง น้ำที่ได้ก็จะใสและสะอาด ทุกปัญหาแก้ได้ด้วยผู้เชี่ยวชาญ Home Service จาก HomePro
แม้ว่าปัญหาที่กล่าวมาเราสามารถแก้ไขได้เอง แต่ก็เป็นปัญหาที่พบบ่อยและเป็นปัญหาสำคัญไม่อาจะละเลยได้ ดังนั้นหากเราไม่แน่ใจว่าจะแก้ปัญหาได้ถูกจุดและถูกต้อง ก็ควรให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นก่อนการติดตั้งหรือหลังการติดตั้งเครื่องกรองน้ำ

โดยเราขอแนะนำ “Home Service” จาก HomePro ซึ่งนอกจากจะเป็นผู้เชียวชาญโดยช่างมืออาชีพแล้ว Home Service ยังมาพร้อมบริการที่ครบวงจร ทั้งบริการติดตั้งเครื่องกรองน้ำ และบริการล้างและทำความสะอาดเครื่องกรองน้ำ ทำให้เราหมดปัญหาจุกจิกกวนใจ ที่สำคัญ HomePro ยังจัดโปรแกรมช่างประจำบ้าน ที่จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องบ้านแบบฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้นไม่ว่าเครื่องกรองน้ำจะมีปัญหาจุดไหน เมื่อไร ก็สามารถแก้ไขได้ทันใจ

นอกจากนี้ Home Service ยังมีบริการอื่นๆ ให้บริการอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น บริการติดตั้ง ย้ายจุด แก้ปัญหา ทั้งอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและที่ไม่เกี่ยวกับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า, บริการทำความสะอาดและตรวจสอบสภาพของเครื่องใช้ไฟฟ้า, บริการปรับปรุงบ้าน ซ่อมแซม และตกแต่งตามความต้องการของลูกค้า เช่น งานสีทาภายในและภายนอก ฯลฯ และบริการออกแบบ3D โดยดีไซน์เนอร์มืออาชีพ ช่วยให้บ้านสวยได้ดังใจ

ข้อดีข้อเสียของเครื่องกรองน้ำน้ำดื่มที่เราดื่มกันอยู่ทุกวันนี้อาจมีแหล่งที่มาของน้ำที่แตกต่างกันไป มีทั้งน้ำแร่ น้ำเปล่า  น้ำที่มาจากเทือกเขาสูง หรืออาจจะเป็นน้ำดื่มที่บรรจุใส่ถังมาส่งตามบ้าน แต่เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าน้ำดื่มเหล่านี้สะอาดและปลอดภัย ทางที่ดีก็คือการเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำมาติดไว้ที่บ้านนั่นเอง แต่..เครื่องกรองน้ำที่ว่านี้ มันมีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง แตกต่างจากน้ำดื่มตามท้องตลาดยังไงบ้างล่ะ

ข้อดีของเครื่องกรองน้ำ
มั่นใจในน้ำดื่ม การที่เราติดเครื่องกรองน้ำไว้ใช้เองภายในบ้าน เราจะรู้แหล่งที่มาของน้ำ เมื่อผ่านเครื่องกรองน้ำ และหลังจากผ่านเครื่องกรองน้ำ เราสามารถพิสูจน์น้ำดื่มได้ตลอดเวลา และจะรู้ได้ทันทีว่าน้ำที่เราดื่มนั้นสะอาดและปลอดภัยจริงๆ จึงทำให้มั่นใจได้เลยว่าน้ำดื่มที่เข้าสู่ร่างกายของเราและคนในครอบครัวนั้นสะอาด ปลอดภัยจากสิ่งปนเปื้อนต่างๆ
ลดมลภาวะ แน่นอนครับเมื่อเราซื้อน้ำแบบแพคมาดื่มกิน จะทำให้มีปริมาณของขวดพลาสติกที่สูง ซึ่งก็เป็นปัญหาในเรื่องขยะมูลฝอย และการย่อยสลายยากของขวดพลาสติกอีกด้วย แต่การใช้เครื่องกรองน้ำจะช่วยลดปริมาณของพลาสติก และยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
รู้ระยะเวลาการใช้งาน ถ้าเราเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำมาติดตั้งที่บ้านเอง เราจะรู้ถึงระยะเวลาในการทำงานของเครื่องกรองน้ำ และจะสามารถดูแลบำรุงรักษาเครื่องกรองน้ำให้ใช้งานได้ปกติ และน้ำดื่มที่ได้นั้นก็จะสะอาด ปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา 
ประหยัด เมื่อเรามองช่วงเวลาระยะยาว เครื่องกรองน้ำจะประหยัดอย่างมากสำรับกรองน้ำดื่มไว้ดื่มทั้งครอบครัว การซื้อน้ำดื่มเป็นแพ็ค เมื่อคิดคำนวณแล้วแพงกว่าน้ำดื่มที่ได้จากการกรองน้ำเองที่บ้าน 

ข้อเสียของเครื่องกรองน้ำ
การบริการหลังการขาย เรื่องนี้เป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งของคนไทยในยุค 4.0 การหาข้อมูลเชิงลึกในการดูแลบริการหลังการขายนี้ก็เป็นส่วนสำคัญยิ่งในการเลือกใช้เครื่องกรองน้ำ หากเราเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำที่ไม่ได้มาตรฐานมาใช้แล้ว เกิดเสียขึ้นมา และไม่มีช่างหรือผู้เชี่ยวชาญมาซ่อม ก็อาจจะทำให้เครื่องกรองน้ำนั้นใช้งานไม่ได้ และทิ้งไว้เป็นอนุสรณ์ของบ้านก็ได้ 
ราคาแพง เครื่องกรองน้ำที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ จะมีราคาที่สูงกว่า เมื่อเทียบราคาในระยะสั้น แต่ถ้าเรามองในระยะยาว และคำนึงถึงสุขภาพของคนในครอบครัว ราคาแพงนี้อาจไม่ใช่ปัญหาของคุณก็ได้ครับ 
การดูแลรักษา เครื่องกรองน้ำเวลาใช้ไปนานๆ ก็จะเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา เราจึงต้องเสียเวลาในการดูแลรักษา การเปลี่ยนไส้กรอง เมื่อถึงกำหนด คำนึงถึงการใช้งาน และอะไหล่ต่างๆ อีกด้วย
 
     การเลือกเครื่องกรองน้ำมาติดไว้ที่บ้าน อาจจะต้องดูเรื่องมาตรฐานการผลิตและบริการหลังการขายด้วย ซึ่งจะทำให้เรามั่นใจได้ว่าเงินที่เราใช้จ่ายไปกับเครื่องกรองน้ำนั้นสมเหตุสมผล แต่กระนั้นก็ยังไม่สำคัญเท่าน้ำดื่มที่ได้จากเครื่องกรองน้ำ ต้องสะอาด บริสุทธิ์ ปลอดภัย ไร้สี ไร้กลิ่น และต้องช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย

ข้อดีของระบบ RO

1. ระบบ RO. สามารถประหยัดสารเคมีได้มากเมื่อเปรียบเทียบกับระบบเคมีทั่วๆไป ในระบบเคมีจะต้องใช้กรดและด่างจำนวนมากมาเจ็นเนอเรต นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องสภาพแวดล้อม ส่วนระบบ RO. จะใช้สารเคมีน้อยมาก ต้นทุนการผลิตน้ำจะตกอยู่ที่ค่าไฟของปั๊มน้ำ ซึ่งกินไฟมากเพราะความดันสูง แต่เมื่อเทียบกับราคาสารเคมีแล้วยังถูกกว่ามาก
2. ระบบ RO. สามารถทำให้น้ำบริสุทธิ์โดยไม่ต้องเปลี่ยนสถานะของน้ำก่อน (nophase change) เหมือนอย่างวิธีการกลั่นน้ำทั่วๆไป
3. ระบบ RO. ประกอบด้วยอุปกรณ์ไม่กี่อย่างจึงเป็นระบบที่กะทัดรัด เช่น ปั๊มน้ำ มอเตอร์ วาล์ว มาตรวัดอัตราการไหล เครื่องวัดค่าความนำไฟฟ้า (conductivity meter) เกจวัดความดัน ฯลฯ
4. ช่างคุมเครื่องจักรไม่จำเป็นต้องใช้ช่างฝีมือ เพียงแต่ผ่านการอบรมเพียงระยะเวลาสั้นๆก็สามารถคุมเครื่องได้ อุปกรณ์อัตโนมัติจะช่วยในการควบคุมง่ายขึ้น             ข้อเสียของระบบ Ro

1. ในเรื่องความดัน โดยปกติถ้าเป็นน้ำทะเลจะต้องใช้ความดัน 800 ถึง 1,000 PSI และสำหรับน้ำกร่อยธรรมดา จะใช้ความดันไม่เกิน 400 ถึง 600 PSI ซึ่งในแง่ของการปฏิบัติแล้ว เราจะใช้ความดัน 200 PSI เหนือความดันออสโมซิส (Osmosis Pressure) ดังนั้นระบบ RO. จึงไม่สามารถใช้กับการแยกน้ำที่มีความเข้มข้นของสารละลายสูงมากๆได้ เพราะโครงสร้างของเนื้อเยื่อจะไม่สามารถรับแรงดันมากเกินไปได้
2. เกี่ยวกับอุณหภูมิของน้ำก่อนเข้าสู่ระบบ เนื้อเยื่อแบบ ทินฟิล์ม คอมโพซิส (Thin Film Composite) ถ้าป้อนน้ำที่มีอุณหภูมิเกินกว่านี้จะมีปัญหาเรื่องเนื้อเยื่ออัดตัวแน่น (compaction) เป็นเหตุให้สารละลายเล็ดลอดออกมาได้มากขึ้น ดังนั้นถ้าน้ำมีอุณหภูมิสูงเกินไปจะต้องลดอุณหภูมิลงก่อน
3. เนื้อเยื่อที่ใช้ในระบบ RO. จะเสื่อมคุณภาพเร็วมาก หากสัมผัสกับน้ำมัน หรือ จารบีจึงจำเป็นต้องกำจัดไขมันใดๆ ออกอย่างเด็ดขาด

ระบบ Ro คือระบบการกรองน้ำโดยอาศัยหลักการเดียวกับไตของมนุษย์ ที่่ทำหน้าที่่ฟอกกรองของเสียออกจากเลือด แล้วขับถ่ายออกจากปัสสาวะ นั้นคือระบบกรองน้ำ แบบ Ro มีการแยกน้ำดีและน้ำเสียออกจากกันนั้นเอง

ติดต่อช่างเจาะบาดาล