สวัสดี

ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: การบำรุงรักษาและทำความสะอาดกระจกประตูบานเลื่อน  (อ่าน 3600 ครั้ง)

Admin
  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1088
    • ดูรายละเอียด
รู้จักประตูบานเลื่อน ตัวช่วยประหยัดเนื้อที่ภายในคอนโด

ภายในที่อยู่อาศัยอย่างคอนโด ทุกคนจะรู้กันครับว่าพื้นที่ใช้สอยจะค่อนข้างจำกัด ดังนั้น การใช้ทุกพื้นที่ภายในห้องให้สามารถเกิดประโยชน์ได้อย่างมากที่สุดจึงเป็นปัจจัยสำคัญของการอยู่อาศัยในคอนโด อย่างการทำประตูบานเลื่อน ก็ถือเป็นหนึ่งในส่วนประกอบภายในห้องที่มีความสำคัญในการช่วยประหยัดพื้นที่ภายในห้องได้เป็นอย่างดี ซึ่งในวันนี้ CondoNewb  จะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักกับประตูบานเลื่อนในคอนโดกันครับ

มารู้จักประตูบานเลื่อนกันก่อน
รูปแบบของประตูที่ใช้กันอยู่ภายในที่อยู่อาศัยนั้นจะมีหลากหลายแบบมากมาย ทั้งประตูเปิด-ปิดแบบด้านเดียว ประตูบานสวิง และประตูบานเลื่อน ซึ่งประตูแต่ละประเภทก็จะมีลักษณะและวัตถุประสงค์ในการใช้งานที่แตกต่างกันไป และการที่เราจะเลือกใช้ประตูแบบใดก็ตาม ก็จะขึ้นอยู่กับว่าพื้นที่ที่เรามีนั้น จะเอื้ออำนวยได้มากน้อยเท่าไหร่ และสำหรับการใช้งานในพื้นที่คอนโด ซึ่งมีพื้นที่ไม่มาก การใช้ประตูประเภทที่สามารถประหยัดพื้นที่ได้ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อให้เรามีพื้นที่ใช้สอยมากยิ่งขึ้น และนั่นก็ทำให้ประตูบานเลื่อนเป็นคำตอบที่ดี เพราะในด้านของฟังก์ชั่นการใช้งานแล้ว ประตูบานเลื่อนนอกจากจะกั้นพื้นที่ต่าง ๆ ให้เป็นสัดส่วนแล้ว ยังสามารถใช้เป็น Partition แบ่งแยกพื้นที่ได้ดีกว่าตู้ หรือชั้นวางของต่าง ๆ ได้อีกด้วย และในส่วนต่อไป เรามารู้จักส่วนประกอบของประตูบานเลื่อนกันเลยดีกว่าครับ

ส่วนประกอบของประตูบานเลื่อน
โดยปกติแล้ว ประตูบานเลื่อนจะต้องมีส่วนประกอบต่าง ๆ ดังนี้

กรอบประตูบานเลื่อน จะนิยมใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบา เช่น อลูมิเนียม ยูพีวิซี ส่วนไม้จริงจะมีราคาที่แพงกว่าและจะเน้นไปในงานดีไซน์มากกว่านำมาตกแต่งจริง
ลูกฟัก สามารถเป็นวัสดุอะไรก็ได้แล้วแต่สไตล์การออกแบบ ซึ่งนิยมใช้เป็น ไม้ปาร์ติเคิล หรือถ้าเป็นการติดตั้งเป็นกรอบอลูมิเนียมก็สามารถทำได้เช่นกัน
กระจกบานเปลือย คือบานกระจกทั้งบานเป็นแผ่นกระจกไม่ได้แยกส่วนประกอบเป็น กรอบประตูและลูกฟักเหมือนบานประตูที่ผลิตจากวัสดุชนิดอื่น มักใช้เป็นกระจกเทมเปอร์หรือกระจกนิรภัย เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
อุปกรณ์ประกอบอื่น ๆ ที่ทำให้เราสามารถใช้งานประตูได้ง่ายขึ้น เช่นมือจับ และ ตัวล็อค
ซิลิโคน หรือสักหลาดประตู ที่สามารถช่วยเพิ่มความแน่นให้กระจก และลดแรงเสียดทานขณะเปิด-ปิดประตู

ชนิดของประตูบานเลื่อน
ประตูบานเลื่อนในปัจจุบันแบ่งรูปแบบการใช้งานตามลักษณะการเปิด-ปิดบานออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ คือ
1. ประตูบานเลื่อนแบบบานเลื่อนข้างเดียว (Fixed-Slide)
          สำหรับประตูบานเลื่อนข้างเดียวนั้น จะมีการใช้งานของบานเลื่อนที่สามารถเลื่อนได้เพียงแค่ข้างเดียว และเป็นบานตายอีกหนึ่งข้างและสามารถกำหนดการเปิด-ปิด ได้ในข้างใดข้างหนึ่ง ตามความถนัดและความสะดวกในการใช้งานภายในพื้นที่ของผู้อยู่อาศัย
2. ประตูบานเลื่อนแบบบานเลื่อนสลับ (Slide-Slide)
          สำหรับบานเลื่อนแบบนี้มีความยืดหยุ่นและสะดวกสบายสูงสามารถเปิด-ปิดได้ทั้งซ้ายและขวาโดยมีแกนกลางเป็นแกนหลักในการยึดโครงสร้าง แต่จุดเสียของบานเลื่อนประเภทนี้คือชำรุดได้ง่ายกว่า (เมื่อเทียบกับแบบบานเลื่อนข้างเดียว) โดยเฉพาะรางเลื่อนและลูกล้อหากเปิดอย่างรุนแรง ที่สำคัญการทำความสะอาดและดูแลรักษาต้องใส่ใจมากกว่าประตูบานเลื่อนชนิดอื่น
3. ประตูบานเลื่อนแบบบานเลื่อนออกข้างคู่ (Fixed-Slide-Slide-Fixed)
          บานเลื่อนชนิดนี้ใช้กลไกการเปิด-ปิดในลักษณะแสกกลางโดยฝั่งซ้ายและฝั่งขวาจะต้องเปิดพร้อมกันด้วยความสมดุล สำหรับจุดเด่นของบานเลื่อนชนิดนี้คือ ดูสวยงาม ทันสมัยและแข็งแรงทนทาน เพราะต้องใช้บานประตูถึง 4 บาน ในทางกลับกันราคาก็จะค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับบานเลื่อนชนิดอื่นๆ

ข้อดีและข้อเสียของประตูบานเลื่อน
      ประตูบานเลื่อนในปัจจุบันนี้ เรียกได้ว่าเป็นที่นิยมติดตั้งกันภายในที่อยู่อาศัยต่าง ๆ อย่างมากมาย รวมทั้งภายในอาคารสำนักงานต่าง ๆ และภายในห้างสรรพสินค้าอีกด้วย ซึ่งในส่วนของบทความนี้ เราจะพูดถึงข้อดีและข้อเสียของประตูบานเลื่อนภายในคอนโดเพียงเท่านั้น และจะมีอะไรบ้าง เราไปดูกันครับ

ข้อดีของประตูบานเลื่อน
1. ประตูบานเลื่อนช่วยในการประหยัดพื้นที่ภายในห้อง
     อย่างที่ทุกคนทราบกันครับ ว่าประตูบานเลื่อนนั้น จะเปิด-ปิดแบบเลื่อน ต่างจากการเปิด-ปิดประตูที่มีลักษณะแบบบานสวิง ซึ่งจะกินพื้นที่ในขณะใช้งานอย่างน้อยถึง 80 เซนติเมตรเลย (เพราะว่าบานประตูโดยส่วนใหญ่นั้นจะมีความกว้างอย่างน้อยอยู่ที่ประมาณ 80 เซนติเมตร) แต่กับประตูบานเลื่อนนั้น จะไม่มีเสียพื้นที่ในการเปิด-ปิดแต่อย่างใดครับ
2. ประตูบานเลื่อนเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บหรือติดตั้งสิ่งของต่าง ๆ ได้มากขึ้น
    เป็นข้อดีที่ต่อเนื่องมาจากข้อ 1 ครับ เพราะเมื่อเราไม่ต้องเสียพื้นที่ไปกับการเปิด-ปิดประตูแล้ว เราก็สามารถใช้พื้นที่นั้น ๆ เพื่อเพิ่มการจัดเก็บหรือจัดวางสิ่งอื่น ๆ เช่นตู้ หรือชั้นวางของเพิ่มเติมได้
3. ประตูบานเลื่อนช่วยในการถ่ายเทและระบายอากาศได้เป็นอย่างดี
    ที่ต้องบอกแบบนี้ก็เพราะว่าประตูบานเลื่อนนั้นสามารถออกแบบให้มีความสูงเต็มพื้นที่ตั้งแต่พื้นจรดเพดานได้ แถมยังมีความกว้างกว่าประตูห้องแบบทั่ว ๆ ไปด้วย จึงทำให้ได้ช่องการระบายอากาศที่กว้างกว่าเดิมด้วย
4. ประตูบานเลื่อนทำความสะอาดได้ง่าย
    เพราะส่วนใหญ่แล้ว ประตูบานเลื่อนนั้น จะเลือกใช้เป็นวัสดุอลูมิเนียม พร้อมบานกระจก ซึ่งจะเป็นวัสดุที่ไม่ถูกกับน้ำยาทำความสะอาดแบบเข้มข้น (เช่น เป็ดโปร) อยู่แล้ว โดยสำหรับบานกระจกนั้น จะใช้แค่น้ำยาเช็ดกระจกก็พอครับ และพื้นผิวอลูมิเนียมนั้นก็เช็ดทำความสะอาดง่ายและขึ้นสนิมได้ยากด้วยครับ จึงเป็นการง่ายที่จะดูแลและทำความสะอาดประตูบานเลื่อนนั่นเอง

ข้อเสียของประตูบานเลื่อน
ข้อเสียเพียงข้อเดียวของประตูบานเลื่อนมีความเปราะบาง ซึ่งความเปราะบางของประตูบานเลื่อนนั้น เราค้นพบได้จากหลากหลายสาเหตุมาก ๆ ดังนี้
1. บานกระจกประตูบานเลื่อนเปราะบาง
    บานกระจกถือเป็นจุดที่เปราะบางมาก ๆ เพราะถ้าหากว่าบานประตูมีการถูกพิงหรือถูกกระแทกหนัก ๆ แล้ว ก็จะทำให้กระจกแตกได้อย่างง่ายดายมาก ๆ
2. ล้อเลื่อนประตูบานเลื่อนอาจบิ่นได้
    และอีกหนึ่งจุดเปราะบางที่สุดเลยของประตูบานเลื่อน ที่ถ้าหากว่าเสียหายแล้ว จะส่งผลกระทบให้ประตูเกิดการเสียหายทั้งบานได้ ก็คือ ตัวล้อเลื่อนของบานประตู เพราะถ้าหากว่าล้อเกิดการบิ่นขึ้นมาแล้ว จะทำให้การเปิด-ปิดประตูมีความฝืดลง และส่งผลให้ทั้งรางล้อเลื่อนและประตูเสียหายได้ ดังนั้นถ้าเราพบว่าประตูมีความฝืดลง ให้รีบเช็คที่ตัวล้อเลื่อนทันทีเลยครับ


ติดต่อสอบถาม