วิธีการทำพระพุทธรูปยังไงบ้าง

ขั้นตอนการผลิต
1.ขั้นตอนการขึ้นแบบ และการปั้น
2.ขั้นตอนการทำแม่พิม (หรือ) ขั้นตอนการทำหุ่น
3. ขั้นตอนการเผาหุ่นและเททองหล่อ
4.ขั้นตอนการขัดเงาตกแต่งผิวทองเหลืองและเก็บรายละเอียด
5.ขั้นตอนการทำผิว อาทิ พ่นสี/รมผิว/ปิดทองคำ/ปัดเงา ฯลฯ
6. ขั้นตอนการขนส่ง

ขั้นตอนการหล่อพระ
สำหรับการหล่อพระที่ทำด้วยโลหะนั้น จะมีวิธีการอยู่ใหญ่ ๆ 3 วิธีการด้วยกันคือ
ปั้นหุ่นการหล่อพระ (เททอง)ตกแต่งองค์พระ   
การหล่อพระมีมาตั้งแต่สมัยโบราณนานมาแล้ว แต่เนื่องจากยุคสมัยเปลี่ยนไป การเข้ามาของเทคโนโลยีต่าง ๆ ทำให้การหล่อพระในยุคนี้มีการประยุคและเปลี่ยนไปสมควร
การหล่อพระในสมัยนี้ก็จะมีการหล่ออยู่ 2 แบบคือ แบบสมัยใหม่ (ปูนปลาสเตอร์ ) และการหล่อแบบโบราณ (ใช้ดินไทย+ทราย+มูลวัว) ซึ่งจะอยู่ตั้งแต่ขั้นตอนการปั้นหุน

ขั้นตอนการหล่อขี้ผึ้ง (Casting Wax)
ขั้นตอนการหล่อขี้ผึ้งมี 3 ขั้นตอนคือ 1.การทาขี้ผึ้งเหลวด้วยแปลงหรือพู่กัน ลงบนผิวชิ้นพิมพ์โดยทำการทาเป็นชั้นๆ จนได้ความหนาที่พอใจ 2.การหุ้มทับบนขี้ผึ้งที่ทาไว้ในชั้นแรกหรือที่ 2 วิธีการคือให้นำขี้ผึ้งที่ทำเป็นแผ่นมีความหนาประมาณ 3 มิลลิเมตร วางทับบนผิวขี้ผึ้งที่ทำการทาด้วยพู่กัน โดยใช้ไอร้อนจากเครื่องไดร์เป่าร้อนหรือภายหลังจากผึ่งแดดที่นิ่มพอสามารถรีดกดแนบตามพื้นผิวแม่พิมพ์ได้ดีให้ทั่วพื้นที่บริเวณพิมพ์ ขั้นตอนที่ 3 นำพิมพ์ทั้ง 2 ซีกประกบเข้าด้วยกันให้สนิดแล้วทำการเชื่อมต่อขี้ผึ้งทั้ง 2 ชิ้นด้วยความร้อนและขี้ผึ้งที่มีความนิ่มเชื่อมต่อระหว่างพิมพ์ทั้ง 2 ซีก หากเป็นพิมพ์ชิ้นเล็กๆ ให้นำขี้ผึ้งเหลวเทเข้าไปในชิ้นพิมพ์ให้ขี้ผึ้งเหลวเชื่อมรอยต่อของพิมพ์แล้วเทกลับออกจากพิมพ์เป็นอันเสร็จสิ้นรอให้ขี้ผึ้งเหลวเซ็ทตัวคงรูปไม่อ่อนตัวเสียรูปทรงแล้วนำพิมพ์ที่ประกบกันออกก็จะได็รูปทรงชิ้นงานที่เป็นขี้ผึ้ง
 กระบวนการหล่อ (Cast Process)
กระบวนการหล่อเป็นขั้นตอนการนำโลหะเหลวเทลงในพิมพ์ที่มีบริเวณช่องว่างของอากาศที่เป็นรูปทรงชิ้นงาน ซึ่งจะมีพิมพ์ 2 ลักษณะ คือ
1.พิมพ์เผาอบละลายขี้ผึ้งออก(Lost wax)
2.พิมพ์ดิบที่อัดแน่นในกล่องโดยมีต้นแบบเป็นรูปทรงง่ายๆ(Sand Mold)
 

การเผาอบ (Baking)
หลังจากทำพิมพ์เสร็จแล้วต้องทำการอบเผาพิมพ์ซึ่งมีความสำคัญและยุ่งยากกว่าขั้นตอนการหลอมโลหะขั้นตอนการอบเผาจะแบ่ง 2 ขั้นตอนคือการอบสำรอกขี้ผึ้ง (Lost Wax) โดยมีอุณหภูมิ  200 – 300  องศาเซลเซียส และขั้นตอนการอบเผาพิมพ์ไล่ความชื้นและให้พิมพ์มีความร้อนเพื่อให้โลหะเหลววิ่งได้ดีในขณะเทหล่อโดยการให้อุณหภูมิที่จุดสูงสุด 500 – 650 องศาเซลเซียส ทั้งนี้การเพิ่มอุณหภูมิจะต้องค่อยๆเพิ่มและให้สัมพันธ์กับการละลายของขี้ผึ้งและระเหยของความชื้นในพิมพ์
การหลอมโลหะและการเทหล่อ (Melting and Pouring the metal)
การหลอมโลหะบรอนซ์ต้องใช้อุณหภูมิสูงถึง 1200 เซลเซียสซึ่งเป็นจุดหลอมเหลวของโลหะบรอนซ์แต่ก่อนจะทำการยกเทหรือตักโลหะเทจะต้องให้อุณหภูมิสูง 1400 เซลเซียสซึ่งถือว่าเป็นจุดเทอีกทั้งการยกโลหะเหลวออกจากเตาหลอมต้องใช้เวลา 1-2 นาทีฉนั้นอุณหภูมิจะลดอย่างรวดเร็วก่อนทำการเทหล่อดังนั้นช่างจำต้องมีประสบการณ์สูงมิเช่นนั้นชิ้นงานจะไม่สมบูรณ์ด้วยโลหะจะหนืดตัวก่อนและทำให้วิ่งไม่ทั่วชิ้นงานการเทโลหะในงานพิธีเทหล่อตามความเชื่อของการสร้างพระพุทธรูปพระเกจิอาจารย์และเทพเจ้าต่างๆ วิธีการหลอมโลหะและเทโลหะจะยังคงรักษารูปแบบหล่อไทยโบราณเพื่อให้รู้สึกถึงความศักคิ์สิทธิ์ในความศรัทธาของประชาชนที่มาเข้าร่วมในพิธี การใช้เตาถ่านและถ่านโค๊คในการหลอมโลหะและเตาเผาอบพิมพ์ซึ่งเป็นเทคนิคและวิธีการหรือกรรมวิธีที่เหมาะสมกับการเทโลหะในพิธีเทหล่อรูปพระพุทธรูปและบุคคลสำคัญเพื่อความเป็นสิริมงคล


  ช่างโรงหล่อพระ ปั้นหินเทียม