สวัสดี

ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: การใช้งานรถเครนอย่างปลอดภัย ควรทำอย่างไร  (อ่าน 2385 ครั้ง)

Admin
  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1088
    • ดูรายละเอียด
การใช้งานรถเครนอย่างปลอดภัย ควรทำอย่างไร?

การใช้งานรถเครนอย่างปลอดภัย
     ปัจจุบันรถเครนได้เข้าไปมีบทบาทในการทำงานประเภทต่าง ๆ เช่น งานก่อสร้าง งานขนส่ง งานโรงงานอุตสาหกรรม งานซ่อมบำรุง และงานยกย้ายทั่วไป จากความหลากหลายในการทำงานอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการทำงานควรปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้
1. ควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล
2. ไม่ควรปฏิบัติงานเมื่อรู้สึกป่วยหรือมีอาคารเมาค้าง
3. ควรศึกษาคู่มือการใช้งานให้เข้าใจ สังเกตป้ายคำเตือนต่าง ๆ และปฏิบัติตาม
4. ควรมีถังดับเพลิง และชุดปฐมพยาบาลติดไว้ในรถเครน
5. ควรทำความสะอาดป้ายเตือนต่าง ๆ ให้มองเห็นชัดเจน
6. ไม่ควรวางอุปกรณ์เกะกะภายในห้องควบคุม
7. ควรปรับเบาะนั่งให้เหมาะสมกับสรีระร่างกาย
8. ไม่ควรวางวัตถุหรือให้บุคคลอื่นนั่งบนรถเครนขณะเดินทาง
9. ควรเปิดประตูหน้าต่างหากมีการติดตั้งเครื่องยนต์ภายในอาคารเพื่อระบายอากาศ
10. ไม่ทิ้งเครื่องมือ เศษผ้าไว้บนเครื่องยนต์ 
11. ไม่ควรสตาร์ทเครื่องยนต์ เมื่ออยู่ภายนอกห้องควบคุม และให้สัญญาณเสียงทุกครั้งก่อนการสตาร์ท
12. ควรมีป้ายเตือน เมื่อมีการซ่อม หรือการห้ามใช้งาน
13. ตำแหน่งคันบังคับ และคันเกียร์ต้องอยู่ในตำแหน่งว่าง หรือหยุดทำงานก่อนสตาร์ทเครื่อง
14. ตำแหน่ง PTO ต้องอยู่ตำแหน่งหยุดทำงานก่อนรถเดินทาง
15. ให้ปฏิบัติตามกฎจราจรเมื่อใช้งานบนท้องถนน
16. ไม่อนุญาตให้มีผู้โดยสารภายในห้องควบคุมระหว่างวิ่ง
17. ควรปิดไฟสำหรับทำงานในขณะทำงานบนท้องถนน
18. ไม่ควรดับเครื่องยนต์ขณะวิ่งลงทางลาดชัน
19. ไม่ออกตัวแรงหรือเบรกกะทันหัน ยกเว้นกรณีฉุกเฉิน
20. ควรมีผู้ช่วยในการให้สัญญาณเมื่อผ่านถนนแคบ
21. ให้ระมัดระวังเมื่อต้องวิ่งลอดอุโมงค์หรือสายไฟฟ้า
22. การหยุดรถเมื่อติดสัญญาณ ให้มีระยะจอดที่ปลอดภัย
23. ควรให้ตำแหน่งพวงมาลัย และล้อตรงขณะจอด
24. ควรตรวจสอบแรงดันลมให้ปกติ และใช้เบรกเท้าก่อนการปลดเบรกมือ
25. ให้เกียร์อยู่ตำแหน่ง “ว่าง” ขณะจอดชั่วคราว
26. ควรหมั่นสังเกตมาตรวัดแรงดันลมเบรกบ่อย ๆ
27. ไม่ควรเหยียบเบรกเท้าค้างไว้ขณะวิ่ง
28. ควรใช้เกียร์ต่ำขณะวิ่งลงทางลาดชัน
29. เมื่อต้องวิ่งผ่านแอ่งน้ำต้องระมัดระวัง เพราะอาจทำให้ระบบไฟฟ้าขัดข้อง หรือเสียการควบคุมรถได้
30. เมื่อรถเกิดเสียให้จอดรถชิดขอบทางด้านซ้าย พร้อมให้สัญญาณเตือนรถจอดฉุกเฉิน
31. ควรมีการประชุมวางแผนก่อนการทำงาน
32. การตรวจสอบบริเวณพื้นที่ทำงานให้มีความปลอดภัยในการทำงาน
33. ควรกันผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้บริเวณที่รถเครนทำงาน
34. ควรมีผู้ช่วยให้สัญญาณเมื่อทำงานในพื้นที่ที่จำกัด
35. ควรทำความสะอาดกระจกด้านหน้า กระจกมองข้าง และไฟสัญญาณ ก่อนการทำงาน
36. ควรจัดหาแสงสว่างให้เพียงพอ สำหรับการทำงานในพื้นที่แสงสว่างน้อย หรือวิสัยทัศน์
37. ควรมีเครื่องกั้นและผู้ให้สัญญาณเมื่อต้องการทำงานบนถนนและทำแนวกั้นเขตสำหรับพื้นที่ทำงาน
38. ควรมีฉนวนหุ้มสายไฟ และรักษาระยะการทำงานที่ปลอดภัยจากแนวสายไฟ
39. ควรระวังอันตรายเมื่อทำงานใกล้แนวสัญญาณวิทยุ
40. ควรหยุดทำงาน และเก็บบูมเมื่อเกิดฝนฟ้าคะนอง หมอกลงจัด หรือลมกรรโชกแรง
41. ควรจัดให้มีผู้ให้สัญญาณเพียงคนเดียว
42. ควรมีการให้สัญญาณการทำงานเมื่อมีเครนมากกว่า 1 คัน
43. ควรใช้บันได หรือมือจับในการขึ้นลงเครน
44. ควรตรวจสอบระบบตัดการทำงานรอก ก่อนการทำงานจริง
45. ควรใช้แผ่นรองขา เมื่อตั้งเครนบนพื้นถนน ปูด้วยก้อนอิฐ
46. ควรสำรวจว่ามีแนวท่อต่าง ๆ ฝังอยู่ใต้ขาตั้งเครนหรือไม่
47. ควรระมัดระวังเมื่อตั้งเครน ใกล้พื้นที่ที่เป็นทางลาด
48. ควรปรับพื้นที่เป็นทางลาดให้แน่นและได้ระดับก่อน ไม่ควรใช้ไม้รอง หรือปรับระดับในการตั้งเครน
49. ควรปรับล็อคระบบช่วงล่างก่อนการตั้งเครน
50. ตรวจสอบระยะการยืดคานขาเครนให้ถูกต้องตามที่ใช้งาน
51. ปรับระดับรถเครนให้ได้แนวระนาบ และขาเครนทุกด้านต้องกดลงพื้น ล้อทุกล้อต้องลอยพ้นพื้นดิน
52. พื้นที่ตั้งเครนต้องรับน้ำหนักที่ลงขาเครนได้ขณะเริ่มยก
53. ห้ามใช้น้ำหนักถ่วงหรือเหนี่ยวรั้งคานขาเครนขณะทำการยก
54. ควรยกน้ำหนักไม่เกินจากค่าที่กำหนดในตารางน้ำหนัก
55. ไม่ควรตัดหรือปิดการทำงานของระบบความปลอดภัยต่างๆ
56. ไม่หยุดคันบังคับกะทันหัน เพราะจะทำให้ชิ้นงานเกิดการแกว่งไปมาเป็นอันตรายได้
57. ควรใช้เชือกประคองชิ้นงานขณะยก เพื่อป้องกันการหมุนไปมาของชิ้นงาน
58. ไม่ควรยกชิ้นงานมากกว่าหนึ่งชิ้น หรือชิ้นงานที่ไม่ทราบขนาดหรือน้ำหนักที่แท้จริง
59. ควรมีช่วงห่างระหว่างสิ่งกีดขวาง กับรถเครนให้สามารถทำงานได้อย่างปลอดภัย
60. ควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษสำหรับการทำงานรื้อถอน
61. ควรเหลือรอบของลวดสลิงในกว้านไม่น้อยกว่า 3 รอบ
62. การใช้งานสองรอกพร้อมกัน น้ำหนักชิ้นงานต้องไม่เกินกว่าน้ำหนักของรอกเล็กจะรับได้
63. ควรเผื่อน้ำหนักสำหรับการยกชิ้นงานขึ้นจากน้ำ และหยุดสักครู่ในขณะที่ชิ้นงานจะลอยขึ้นจากผิวน้ำ
64. ห้ามเพิ่มน้ำหนักถ่วงท้าย เกินกว่าที่ออกแบบไว้
65. ไม่ควรถอดจิ๊ปออกขณะยก เพราะเครนส่วนใหญ่ถูกออกแบบให้จิ๊ปเป็นตัวช่วยถ่วงน้ำหนักขณะยก
66. ไม่ควรละสายตาจากชิ้นงานขณะยก
67. ไม่ควบคุมคันบังคับจากภายนอกห้องควบคุม หรือออกจากห้องควบคุมขณะยกชิ้นงาน
68. ควรตรวจสอบความถูกต้องของการผูกจับชิ้นงานก่อนยกทุกครั้ง
69. ตรวจสอบลวดสลิงที่ยึดจับให้ตึงก่อนยกชิ้นงานพ้นจากพื้นดิน
70. ตรวจสอบให้สลักกันสลิงที่ตะขอให้อยู่ในสภาพใช้งาน
71. ควรเผื่อระยะการยกเนื่องจากบูมเครนจะเกิดการโก่งตัวขณะเริ่มยกน้ำหนักจะทำให้ค่าระยะห่างการยกเพิ่มมากขึ้นตามความยาวของการใช้บูม
72. ควรให้รอกได้แนวดิ่งก่อน เมื่อชิ้นงานลอยพ้นพื้นดิน จึงยกให้ลอยสูงขึ้น
73. ไม่ควรยึดบูม ตั้งบูมเพื่อยกน้ำหนัก หรือในการดัน หรือผลักชิ้นงาน
74. ควรใช้เบรกกว้านเมื่อต้องยกชิ้นงานลอยค้างเป็นเวลานาน
75. ไม่ควรปล่อยให้ผู้อื่นอยู่ใกล้รถเครนขณะทำงาน และไม่ควรยกชิ้นงานข้ามศีรษะผู้อื่น
76. เมื่อลวดสลิงเกิดไปเกี่ยวสิ่งของต่างๆ ควรวางชิ้นงานแล้วตรวจสอบลวดสลิงเสียก่อน
77. ไม่ควรหยุดการตั้ง-นอนบูมอย่างกะทันหัน เพราะอาจทำให้เครนคว่ำ หรือหงายหลังได้
78. ไม่ควรปล่อยให้คนเกาะติดไปกับชิ้นงานขณะยก
79. ไม่ควรพยายามยกชิ้นงานจากด้านข้างด้วยการสวิงเพื่อยกขณะของยังไม่ลอย
80. ไม่ควรยกชิ้นงานเมื่อรู้สึกว่ามีการสั่นไหวของพื้นดิน หยุดเพื่อตรวจสอบพื้นดิน และตัวรถก่อนการยก
81. ควรระมัดระวังขณะนอนบูม ควรทำงานอย่างช้าๆ เพื่อป้องกันการยกเกินระยะ
82. ควรระวังรอกกระแทกปลายบูม ขณะยืดบูม หรือนอนบูม ควรเปิดระบบตัดรอกไว้ให้ทำงานปกติ
83. ควรทดสลิงรอกให้เหมาะสมกับน้ำหนักที่จะยก
84. เมื่อยกชิ้นงานลอยพ้นจากพื้นประมาณ 10 เซนติเมตร ให้หยุดเพื่อตรวจสอบสิ่งผิดปกติ
85. ไม่ควรปล่อยสลิงออกจากกว้านขณะรอกแตะพื้นแล้วเพราะสลิงที่กว้านจะเกิดการฟูได้
86. ไม่ควรใช้เครนในการทำงานยกสองรอกพร้อมกันโดยที่ชิ้นงานเป็นคนละชิ้นกัน อาจทำให้บูมเสียหายได้
87. ควรจัดเรียงสลิงให้ได้แนว เพื่อป้องกันการหมุนของชิ้นงาน
88. ควรใช้ช่วงความยาวบูมให้ลำดับถูกต้องกับน้ำหนักที่จะยก
89. ควรตรวจสอบสิ่งกีดขวางในแนวสลิงและให้สัญญาณเสียงเตือนก่อนการสวิง
90. ควรใช้เบรกสวิง เมื่อรถเครนหมุนได้ตำแหน่งแล้ว
91. ควรเปิดระบบฟรีสวิงเพื่อให้แนวรอกตรงกับศูนย์ถ่วงชิ้นงานก่อนการยก แล้วค่อยใช้ระบบสวิงปกติ
92. ไม่ควรสวิงด้วยความเร็วสูง ขณะยกชิ้นงานจะทำให้ระยะห่างจากการยกเพิ่มมากขึ้นจากการเหวี่ยง
93. ในขณะที่ขาเครนแต่ละข้างยืดไม่เท่ากัน ไม่ควรสวิงไปในด้านที่ขาเครนยืดออกไปไม่เต็ม หรือสั้นกว่า
94. การใช้งานจิ๊ป ควรศึกษาคู่มือการใช้งานให้เข้าใจ และติดตั้งฟังค์ชั่นการทำงานให้ถูกต้อง
95. สำหรับการยกที่เคนสองคันควรใช้เครนที่มีประสิทธิภาพหรือยกน้ำหนักได้เท่ากัน
96. ควรระมัดระวังการใช้ความยาวสลิงเมื่อใช้รอกทำงานในหลุมลึก
97. ควรจัดบูม จิ๊ปเข้าไปในที่ให้เรียบร้อย หลังใช้งานเสร็จ
98. ควรจอดรถเครนในที่ที่ปลอดภัย ไม่ควรจอดในที่ลาดเอียงและป้องกันไม่ให้เครนเคลื่อนที่ได้
99. ควรมีการตรวจสอบสภาพรถเครนหลังการใช้งาน
100. ควรดับเครื่องยนต์ ปิดล็อคประตู สำรวจความเรียบร้อยก่อนออกห่างจากรถเครน

ติดต่อสอบถาม